นักวิจัยอังกฤษทดลอง “วิตามิน เอ” หยอดจมูก รักษาผู้ป่วยโควิดไม่ได้กลิ่น

สำนักข่าว บีบีซี รายงานวันที่ 29 ก.ย. ว่า คณะนักวิจัยที่ มหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย ของอังกฤษกำลังทดลองการใช้วิตามินเอหยอดจมูกอาจสามารถรักษาการสูญเสียการรับกลิ่น และเปลี่ยนความรู้สึกในการรับกลิ่น ในผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้

การทดลองดังกล่าวจะใช้เวลา 12 สัปดาห์ ผู้ป่วยที่เป็นอาสาสมัครเพียงบางส่วนจะได้รับการรักษา แต่คณะนักวิจัยจะขอให้ทุกคนดมกลิ่นอะไรแรงๆ เช่น ไข่เน่า และกุหลาบ จากนั้น จะสแกนสมองเพื่อตรวจว่า วิตามินเหล่านั้นซ่อมแซมทางเดินรับกลิ่นที่สึกหรอหรือประสาทรับกลิ่นหรือไม่

AFP

ศาสตราจารย์คาร์ล ฟิลพอตต์ ผู้นำการวิจัย จากโรงเรียนแพทยศาสตร์นอริช (Norwich Medical School) มหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย และโรงพยาบาลบริการสุขภาพแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเจมส์ พาเจ็ต (James Paget University Hospitals NHS Trust) กล่าวว่า คณะนักวิจัยต้องการทราบว่า ทางเดินรับกลิ่นที่สึกหรอในสมองของผู้ป่วยนั้นมีขนาดและการทำงานเพิ่มขึ้นหรือไม่ เมื่อรักษาด้วยยาหยอดจมูกวิตามินเอ

“เราจะมองหาการเปลี่ยนแปลงในขนาดของป่องรับกลิ่น (olfactory bulb) บริเวณเหนือจมูกที่ประสาทรับกลิ่นมารวมกันและเชื่อมต่อกับสมอง และจะมองหาการทำงานในบริเวณสมองที่เชื่อมโยงกับการรับกลิ่นด้วย”

วิตามินเอหรือเรตินอลช่วยรักษา ได้แก่ 1.ระบบภูมิคุ้มกัน ที่ป้องกันร่างกายเจ็บป่วยและติดเชื้อ 2.สายตา โดยเฉพาะการมองเห็นในที่แสงน้อย และ 3.ผิวหนังและเยื่อบุบางส่วนของร่างกาย รวมถึงจมูก ขณะที่ผลิตภัณฑ์จากนมหลายชนิด รวมถึงผักบางชนิดมีวิตามินเอซึ่งละลายในไขมัน แต่ผู้คนที่มักบริโภคอาหารเสริมวิตามินเอควรระวังว่า หากปริมาณมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้

ทั้งนี้ การสูญเสียการรับกลิ่นหรือการรับกลิ่นที่เปลี่ยนไปเป็นอาการทั่วไปของผู้ป่วยโควิด-19 แม้ว่าไวรัสอื่นๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ จะสามารถทำให้เกิดได้เช่นกัน และแม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะฟื้นตัวตามธรรมชาติภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่หลายคนยังมีอาการผิดปกติจากการรับกลิ่นอย่างต่อเนื่อง

University of East Anglia

บีบีซียังนำเสนอเรื่องราวของ ลีนา อัลนาดี วัย 29 ปี หญิงจากกรุงลอนดอน ผู้ป่วยโรคพาร์สเมียหลังติดโควิด ทำให้การรับกลิ่นของสิ่งทั่วไปเปลี่ยนไป เช่น น้ำประปามีกลิ่นจากหนองน้ำหรือท่อระบายน้ำ ขณะที่ผักชีมีกลิ่นของลูกกลิ้งระงับกลิ่นกาย และไข่ไก่ อาหารโปรดของลีนา มีกลิ่นเหมือนยางไหม้ แม้แต่กิจวัตรประจำวันธรรมดา เช่น การอาบน้ำ หรือการแปรงฟัน ช่างไม่น่าอภิรมย์สำหรับเธอ

“การสูญเสียการรับรู้กลิ่นเป็นความหายนะ ส่งผลต่อการกินของฉันมากเลย อาหารหลายเมนู ฉันไม่สามารถกินได้ น่าหงุดหงิดจริงๆ” อัลนาดีกล่าว พร้อมเผยเคล็ดลับเล็กน้อยที่ช่วยให้ความรู้สึกดีขึ้นบ้าง

“เพิ่มเลมอนหรือพริกลงในอาหารจะทำให้กลิ่นดีขึ้น ฉันทดลองและทำรายการอาหารปลอดภัยที่จะไม่ทำให้ฉันต้องอาเจียน ฉันจำเป็นต้องคิดค้นเองเพื่อแน่ใจว่า ฉันจะกินอาหารที่เหมาะสมอย่างเพียงพอให้สุขภาพดี” อัลนาดีกล่าว