ทักษิณ อัด ประยุทธ์ ขยายเพดานหนี้ 70% ใช้หนี้ยันลูกหลาน 3 รุ่น ชี้ถ้าอยู่ต่อคงถึง 80%

‘โทนี่’ อัด ‘ตู่’ ขยายกรอบหนี้ 70% ไม่มีก็กู้ ใช้หนี้ยันลูกหลาน 3 รุ่น ลั่นถ้าอยู่ต่อคงถึง 80% เหน็บไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่ตอนโควิดทิ้งไว้ข้างถนน

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 2564 นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย หัวข้อ “MODERNIZED THAILAND กำเนิดใหม่ความทันสมัยเพื่อคนไทยและประเทศไทย” นายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมขยายเพดานเงินกู้เป็น 70% ว่า สไตล์ของตนกับสไตล์ของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เหมือนกัน สไตล์ พล.อ.ประยุทธ์กู้เงินมาแจก สไตล์ของตนให้ต่างประเทศกู้เงินมาสร้างให้เรา แล้วเราเอารายได้ในอนาคตไปจ่าย วิธีการแจกเงิน คนที่รับถือว่าบาปทางอ้อม เพราะตัวเองยังหาเลี้ยงลูกหลานเป็นมรดกไม่ได้ แต่นำมรดกลูกหลานไปใช้แล้ว ลูกหลานอีกสองสามรุ่นต้องหาเงินไปใช้หนี้ที่กู้มาด้วยการเสียภาษีที่เพิ่มขึ้น และทำงานหนักขึ้น เพื่อประเทศนำเงินไปใช้หนี้ที่กู้มา

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ส่วนที่เพิ่มเพดานเงินกู้เป็น 70% นั้น เปรียบเสมือนเรามีรายได้ต่ำแต่ไปกู้สูง ต้องคิดด้วยว่าเราจะใช้หนี้อย่างไร เพราะฐานรายได้เรายังต่ำอยู่ ซึ่งปกติวินัยการคลัง 50% ถือเป็นวินัยการคลังที่ดีที่สุด แต่ถ้าวินัยการคลังที่ 60% ถือว่าอาการหนักแล้ว แต่ตอนนี้ 70% และถ้าอยู่ต่อคงมีไปถึง 80% ที่น่าห่วงคือเราจับจ่ายใช้สอยง่ายเกินไป ไม่มีก็กู้ ทำให้ไม่มีขีดความสามารถพัฒนาตัวเอง เพราะเพดานเงินกู้มันยันอยู่ ขีดความสามาถในการปรับปรุงประเทศก็ยากเพราะไม่มีตังค์

“วันนี้นายกฯ ใช้คำพูดตรงกับสภาพัฒน์ฯ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 13 ที่กำลังจะไปให้ประชาชนรับฟังความเห็นสาธารณะ ผมอ่านแล้วใช้คำว่าพลิกโฉมประเทศไทย จะไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่ตอนโควิดทิ้งไว้ข้างถนน วันนี้ปัญหาคือช่องว่างรายได้ระหว่างคนรวยกับคนจนอยู่ที่ 16 เท่า ซึ่งเคยอยู่ที่ 5 เท่า มันน่ากลัว” นายทักษิณ กล่าว