วันที่ 26 กันยายน 2564 บีบีซีรายงานว่า เธโอเนสเต บาโกโซร่า อดีตพันเอกกองทัพรวันดาและอดีตรัฐมนตรีกลาโหมที่ถูกจำคุกจากบทบาทในเหตุสังหารชาวรวันดาร่วม 8 แสนชีวิตในช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดาในปี 1994 ได้เสียชีวิตระหว่างถูกจำคุกในเรือนจำในประเทศมาลี ด้วยวัย 80 ปี

โดยอะคีลี บุตรชายของบาโกโซร่า ได้เปิดเผยว่า บาโกโซร่าเสียชีวิตในโรงพยาบาลเมืองบามาโก ซึ่งเขาถูกนำมารักษาตัวจากโรคหัวใจ

บาโกโซร่าถูกศาลอาญชกรรมสงครามกรณีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดาตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ต่อมาได้ลดโทษจำคุกลงเหลือ 35 ปี

บาโกโซร่าก่อเหตุสังหารชาวรวันดาเผ่าทุซซี่ส่วนใหญ่ในจำนวน 8 แสนคน ตลอดช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 100 วัน ต่อมาบาโกโซร่าได้หลบหนีออกจากรวันดาหลังกองกำลังแนวร่วมกู้ชาติรวันดาหรืออาร์พีเอฟของพอล คากาเม้ เข้ายึดอำนาจ ก่อนจะถูกจับที่ประเทศแคเมอรูนในอีก 2 ปีต่อมา

ในช่วงการพิจารณาคดีในศาลอาชญากรรมสงครามกรณีรวันดาในปี 2008 ศาลพบว่าบาโกโซร่ามีความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ จากการก่อเหตุฆากรรมบุคคลสำคัญทางการเมือง รวมถึงอเกธ อูวีลิงกิยิมานา นายกรัฐมนตรีหญิงของรวันดา

บาโกโซร่าแก้ต่างตัวเองโดยยืนกรานว่าเขาเป็นเหยื่อของโฆษณาชวนเชื่อโดยรัฐบาลปัจจุบันที่เป็นชาวทุซซี่

แต่นายพลชาวแคนาดาอย่างโรมิโอ ดาลแลร์ ผู้บัญชาการกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในช่วงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ บรรยายว่าบาโกโซร่าถูกเรียกว่าเป็น “คิงส์พินท์” ที่อยู่เบื้องหลังการฆ่า และยังกล่าวหาว่าบาโกโซร่าข่มขู่จะฆ่านายพลดาลแลร์

บาโกโซร่าถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ 3 ปีต่อมาได้ลดโทษจำคุกลงเหลือ 35 ปี และถูกส่งเข้าเรือนจำคูลิโคโร ในประเทศมาลีพร้อมกับอีกหลายคนที่มีส่วนในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์รวันดา

ทั้งนี้ เมื่อต้นปี บาโกโซร่าถูกปฏิเสธคำร้องให้ปล่อยตัวก่อนกำหนด ซึ่งเขาจะรับโทษครบกำหนดในอายุ 89 ปี