ถกทีมเศรษฐกิจ หารือปรับขึ้นภาษีบุหรี่ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ส่งผลให้ราคาบุหรี่ ปรับเพิ่มซองละ 6-8 บาท ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้

วันที่ 23 ก.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาล ตามปกติตั้งแต่ช่วงเช้า แม้ไม่มีสาระการประชุมทางการ แต่นายกฯ ได้เรียกทีมเศรษฐกิจ อาทิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง และนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เพื่อหารือเรื่องการขึ้นภาษีบุหรี่

ทั้งนี้ ต้องจับตาว่าการหารือครั้งนี้จะมีการขึ้นภาษีบุหรี่ครั้งใหม่ตามที่มีการคาดการณ์ไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องเข้าที่ประชุม ครม.เห็นชอบ ก่อนวันที่ 1 ต.ค.นี้ เพื่อนำมาประกาศใช้

โดยอัตราภาษีตามโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ แม้จะไม่ปรับขึ้นจากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 40 ตามกฏหมาย แต่อัตราการจัดเก็บขั้นต่ำตามมูลค่าของโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ จะมากกว่าร้อยละ 20 แน่นอน เบื้องต้นมีการคาดการณ์ในตลาดผู้ค้าบุหรี่ว่า ราคาบุหรี่หลังโครงสร้างภาษีใหม่มีผลบังคับใช้ อาจปรับเพิ่มขึ้นซองละ 6-8 บาท

ขณะที่โครงสร้างภาษีบุหรี่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีการเก็บตามปริมาณที่มวนละ 1.20 บาท บวกกับตามมูลค่าร้อยละ 20 สำหรับบุหรี่ที่ราคาขายปลีกไม่เกิน 60 บาทต่อซอง และร้อยละ 40 สำหรับบุหรี่ที่ราคาขายปลีกที่ราคาเกิน 60 บาทต่อซอง

ตามกฎหมายเดิม ในวันที่ 1 ต.ค. 2564 การเก็บภาษีบุหรี่ตามมูลค่าจะต้องเหลืออัตราเดียวที่ร้อยละ 40 ทุกชนิดราคาบุหรี่ แต่ทั้งผู้ค้าบุหรี่และชาวไร่ยาสูบไม่เห็นด้วย เนื่องจากจะทำให้ราคาบุหรี่ปรับขึ้นสูงอย่างมาก โดยกรมสรรพสามิตมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีบุหรี่ เฉลี่ยปีละ 6 หมื่นล้านบาท