คดีลิตวิเนนโก ศาลยุโรปชี้ชัด รัสเซียอยู่เบื้องหลังลอบสังหารอดีตสายลับ

วันที่ 21 ก.ย. รอยเตอร์รายงานว่า ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (ECHR) ตัดสินว่าทางการรัสเซียเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อคดีสังหารนายอเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก อดีตสายลับเคจีบี ที่เสียชีวิตอย่างทารุณจากพิษกัมมันตภาพรังสีของสารพอโลเนียม 210 เมื่อปี 2549

รายงานระบุว่า นายลิตวิเนนโก เสียชีวิตด้วยอายุเพียง 43 ปี เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังนายลิตวิเนนโกดื่มน้ำชาเขียวที่ปนเปื้อนธาตุกัมมันตรังสีพอโลเนียม 210 ที่โรงแรมมิลเลเนียม โฮเตล ในกรุงลอนดอน ซึ่งทางการอังกฤษกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือลอบสังหารจากทางการรัสเซีย

คดีสังหารนายลิตวิเนนโกส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับรัสเซียตกต่ำครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น ยิ่งไปกว่านั้นการสืบสวนของหน่วยงานอังกฤษที่เสร็จสิ้นไปในปี 2559 พบว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อาจรู้เห็นเป็นใจและเป็นผู้ออกคำสั่งด้วย

การสอบสวนของทางการอังกฤษยังพบอีกว่า ผู้ที่ลงมือสังหารนั้นเป็นอดีตสายลับเคจีบี 2 คน ได้แก่ นายอันเดร ลูโกโวย์ และเดมิทรี โกฟตุน ภายใต้ภารกิจสั่งการของหน่วยความมั่นคงกลาง หรือเอฟเอสเบ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สืบทอดต่อมาจากเคจีบีของอดีตสหภาพโซเวียต

แถลงการณ์ของ ECHR ระบุแสดงความเห็นพ้องกับการสืบสวนของหน่วยงานอังกฤษ แม้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองคนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ศาลพิจารณาแล้วพบว่าอดีตสายลับเคจีบีทั้งสองนายเป็นผู้ลงมือสังหารนายลิตวิเนนโกอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ

นอกจากนี้ ECHR ยังสรุปด้วยว่า ทางการรัสเซียย่อมต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ทั้งหมด และทางการรัสเซียย่อมต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการลับที่เกิดขึ้น หรือข้อมูลที่สามารถคัดง้างการสอบสวนของอังกฤษได้

“ทว่า ทางการรัสเซียกลับไม่เคยให้ข้อมูลใดๆ ที่จะคัดง้างการสืบสวนของหน่วยงานอังกฤษได้อย่างจริงจัง” ECHR ระบุ