เว็บไซต์ นิวยอร์กไทม์ส สื่อชื่อดังของสหรัฐฯรายงานเมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมาว่า มีข้อมูลอ้างได้ว่าอิสราเอลใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอกับอาวุธ โดยล่าสุดได้ใช้งานปืนกลที่ควบคุมโดยเอไอผ่านรีโมตคอนโทรลระยะไกล ทำการลอบสังหารโมห์เซน ฟาห์คลิซาเดห์ นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ระดับสูงของอิหร่านเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว โดยอิสราเอลได้ติดตั้งปืนกลบนหลังรถปิกอัพที่จอดอยู่ข้างถนน จนรถยนต์ของฟาห์คลิซาเดห์ปรากฎก็ได้สั่งการผ่านการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมสั่งการรัวกระสุนสังหารใส่รถยนต์คันดังกล่าว

ด้านแหล่งข่าวในอิหร่านที่ไม่เปิดเผยเชื่อระบุว่า การโจมตีนั้นแม่นยำ สังหารตัวฟาคริซาเดห์ยกเว้นภรรยา แม้ไม่ได้ใช้การจดจำใบหน้าเพื่อช่วยในการเล็ง ในขณะที่อิสราเอลอ้างว่าการใช้เอไอนั้น ก็เพื่อชดเชยความล่าช้าของระบบดาวเทียมและการหดตัวของปืน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการระบุเป้าหมายฟาห์คลิซาเดห์ได้โดยจัดรถตัวล่อที่ติดกล้องเพื่อให้ฟาห์คลิซาเดห์กลับรถและได้ภาพที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ทั้งรัฐบาลอิหร่านและอิสราเอล ไม่มีใครยืนยันต่อสาธารณชนถึงการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์กับอาวุธนี้

ขณะที่ตามข้อมูลของแหล่งข่าว ทีมสืบสวนของอิหร่านทำได้เพียงชี้ว่าเป็นธรรมชาติของการโจมตีด้วยความบังเอิญ ส่วนทีมปฎิบัติการของอิสราเอลลได้ระเบิดรถปิกอัพเพื่อทำลายหลักฐาน แต่อุปกรณ์สังหารยังไม่บุบสลาย (หากใช้งานไม่ได้)

ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยีกับอาวุธเพื่อทำสงครามไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้ว่าปืนกลควบคุมรีโมตระยะไกลจะตั้งค่าได้ยาก (เพราะอิสราเอลต้องลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนต่างๆ ทีละชิ้น) แต่ป้องกันเจ้าหน้าที่ให้พ้นจากอันตรายและหลีกเลี่ยงการส่งสัญญาณเตือนได้เหมือนโดรน หากปืนถูกทำลายตามแผน อิหร่านอาจไม่สามารถระบุวิธีการลอบสังหารได้

หากมีความแม่นยำ นี่เป็นจุดเปลี่ยนสู่อนาคตของปฏิบัติการลอบเร้น มือสังหารสามารถใช้หุ่นยนต์ในการกำจัดเป้าหมายด้วยความเสี่ยงต่ำ โอกาสเตือนศัตรูรู้ตัวต่ำและโอกาสปฏิเสธไม่ได้สูงมาก หรือใช้สนับสนุนการรบให้กับหน่วยทหารในพื้นที่การสู้รบได้ ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมหน้าการทำสงครามในอนาคตไปอีกขั้นหลังการใช้โดรนในปฏิบัติการทางทหารถูกใช้อย่างมากไปแล้ว

ที่มา : Engadget