ไพบูลย์ ยันก๊วนในพปชร.จบแล้ว! หลัง ‘หัวหน้าป้อม’ สั่ง พร้อมแจงภารกิจตำแหน่ง ปธ.กฎหมายพรรค

‘ไพบูลย์’ ชี้ภารกิจแรก ปธ.คกก.กฎหมายพรรค จะดู พ.ร.บ.พรรคการเมือง-การเลือกตั้ง ยันกลุ่มก๊วนในพรรคจบ หลัง ‘หัวหน้าป้อม’ สั่ง อวยเป็นหัวหน้าพรรคที่มีบารมี คนรัก เคารพทั้งพรรค แจง ‘หัวหน้าพรรค’ ถามความเห็นลูกพรรคตลอด บอก ส.ส.เห็นด้วยเป็นเอกฉันท์
เมื่อวันที่ 18 กันยายน นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายกฎหมาย จะมุ่งทำภารกิจอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ว่า ภารกิจแรกจะดูเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าทางพรรคจะแก้ไขอย่างไรและร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส่วนเรื่องกฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคจะยึดแนวทางใดนั้น ก็คงจะขมวดเอาจากกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งปี 2554 ที่ได้เขียนวิธีการคำนวณไว้ ซึ่งเป็นการคำนวณคะแนนเฉพาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วยหนึ่งร้อย พรรคการเมืองก็จะได้ ส.ส.พึงมีต่อหนึ่งคน จากนั้นก็ไปดูว่าพรรคการเมืองไหนที่ได้จำนวนคะแนนทั้งประเทศเท่าไร หากหารแล้วได้จำนวนเต็มหรือ 1 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปก็จะได้ ส.ส. 1 คนขึ้นไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคะแนน ซึ่งหากไม่ได้ 1 เปอร์เซ็นต์ก็จะไม่ได้ ส.ส. ในกรณีที่เหลือเศษก็จะดูว่าที่ได้ 1 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปนั้นพรรคไหนที่เหลือเศษมากที่สุดก็จะได้ ส.ส.เพิ่ม

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพรรคอื่นหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ตกลงกันว่าต่างคนต่างเขียนไปและไปยื่นและพิจารณารวมกันในสภา ซึ่งอาจจะมีของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องดูของ กกต.เป็นหลัก เพราะเขาเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายเฉพาะกฎหมายเลือกตั้ง เพราะ กกต.ก็มีอำนาจเสนอร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมา ซึ่ง กกต.ก็คงจะเสนอตามที่ตนพูดไปข้างต้น เพราะต้องไปในแนวกฎหมายเลือกตั้งปี 2554 ซึ่งก็ทำให้คำนวณคะแนนง่ายที่หากได้ 1 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปถึงจะได้ ส.ส. 1 คน แต่หากมีเศษก็จะนำไปให้พรรคที่มี 1 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ไม่เอามาแบ่งเหมือนรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เรียกว่าปัดเศษ คือไม่มี ส.ส.ครบ 1 เปอร์เซ็นต์ก็ปัดเศษให้เป็น 1 คน

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตรระบุว่าให้เลิกตั้งกลุ่ม ก๊วนกันภายในพรรค ในส่วนนี้มองว่าปัญหาภายในพรรคจะจบจริงหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า จริง เกิดขึ้นจริงเพราะทุกคนถือว่า พล.อ.ประวิตรเป็นศูนย์รวมของพรรคสำหรับพลังประชารัฐ ท่านเป็นหัวหน้าพรรคที่มีบารมี มีผู้ที่รักและเคารพท่านทั้งพรรค จึงไม่มีใครคิดจะไปแยกกลุ่ม เพราะท่านบอกให้มีกลุ่มเดียวคือพรรคพลังประชารัฐ ทุกคนจึงเอาแนวนี้ ไม่มีปัญหา พรรคเรามีเอกภาพ

ถามย้ำว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้จะจบจริงใช่หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า “จบ เรื่องนี้จบ ท่านหัวหน้าพูดอะไร สมาชิก ส.ส.ทุกคนก็เอาตามท่าน แต่ท่านพูดทุกครั้งก็จะถามความเห็น ส.ส.ในที่ประชุม ซึ่ง ส.ส.ในที่ประชุมก็เห็นด้วยเป็นเอกฉันท์อยู่แล้ว”