ศบค.พบหลายจว.ติดเพียบ จากวงเหล้า-สังสรรค์ที่ราชการ ย้ำจัดกินเจ-มุทิตาจิตวิถีใหม่

ศบค.พบหลายจว.ติดเพียบ จากวงเหล้า-สังสรรค์ที่ราชการ วงหลายจังหวัดไม่ติดท็อปเทน แต่ติดเชื้อเป็นกลุ่มคล้ายกัน ย้ำจัดกินเจ-มุทิตาจิตวิถีใหม่

วันที่ 17 ก.ย. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า ทิศทางการติดเชื้อในประเทศไทยยังเป็นเหมือนช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้ติดเชื้อเพิ่ม 14,555 ราย สะสม 1,448,792 ราย หายเพิ่ม 13,691 ราย สะสม 1,304,247 ราย เสียชีวิต 171 ราย สะสม 15,124 ราย ยังอยู่ระหว่างการรักษา 129,421 ราย อยู่ใน รพ. 44,439 ราย รพ.สนามและอื่นๆ 84,982 ราย มีอาการหนัก 3,851 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 787 ราย

ทั้งนี้ นอกจากดูยอดติดเชื้อแล้ว ต้องดูยอดอาการรุนแรงปอดอักเสบและใส่เครื่องช่วยหายใจด้วย ถือว่ามีความสำคัญ การติดเชื้อเป็นตัวลขเฝ้าระวัง แต่หากติดเชื้อมีการตรวจพบเร็ว กักตัว ให้การรักษาที่เหมาะสม กลุ่มเหล่านี้ถ้าไม่เป็นโรคประจำตัวก็หายป่วยกลับมาแข็งแรงปกติ แต่ที่เราเฝ้าระวังคือปอดอักเสบ ปัจจุบันจะเห็นทิศทางลดลงต่อเนื่องในทุกพื้นที่รวมถึง กทม. ต้องดูสอดคล้องปริมาณเตียงรองรับ และบุคลากรและทรัพยากรสาธารณสุขรองรับได้

“ปัจจุบันการติดเชื้อในกลุ่มที่ตรวจด้วย RT-PCR พบการติดเชื้อ 18-19% นับเฉพาะกลุ่ม PUI ที่มีอาการไข้ ทางเดินหายใจไปตรวจที รพ. พบรติดเชื้ออยู่ที่ 20% ขึ้นไป กทม.บางช่วงขึ้นไปถึง 30% ภาคใต้บางพื้นที่ขึ้นไปถึง 49% จึงเน้นย้ำทุก รพ.หากพบผู้ป่วยมีไข้ อาการระบบทางเดินหายใจ ยืนมาตรการเดิมตรวจโควิด 100% ประชาชนมีอาการไข้ อาการทางเดินหายใจ ให้ข้อมูลบุคลากรสาธารณสุขเวลาไปรับบริการด้วย” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ส่วนการตรวจเชิงรุก ATK ภาพรวมประเทศอยู่ที่ 20% แต่ละพื้นที่แตกต่างกันไป อย่างอาสาโคแคร์ ระดมตรวจคลองเตย 3 พันกว่าราย พบ 3% บางแห่งเกิน 10% สำหรับที่ สปสช.คิกออฟแจก ATK ที่ลงทะเบียนประเมินความเสี่ยงผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เช่น มีอาการทางเดินหายใจ อยู่ในพื้นที่เสี่ยง สัมผัสผู้เสี่ยงหรือไม่ เพื่อมอบชุดตรวจฟรี กระจายไปแล้วเกินล้านชุดใน กทม.และปริมณฑล ประชาชนมีรายงานกลับเข้ามา บางจุดรับไม่สะดวก ไกลพื้นที่อาศัย มีความแออัดพอสมควร หน่วยงานพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะเร่งกระจายจุดรับมากขึ้น ฝากประชาชนว่า ขณะรอรับให้เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ลดการสัมผัส อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ขอให้กลุ่มเสี่ยงรับก่อน ระยะยาวทุกคนมีโอกาสตรวจ เช่น เข้าปฏิบัติหน้าที่ร้านอาหารโควิดฟรีเซตติ้ง ผลตรวจ ATK เป็นลบ จะได้กลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ

“การเปรียบเทียบผู้ติดเชื้อ กทม.ปริมณฑล อยู่ที่ 37% ส่วน 71 จังหวัด 63% ทิศทางลดลง แต่ช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ค่อนข้างทรงๆ อยากเห็นลดลงว่านี้ หลายจังหวัดปรับเตียงเพื่อให้เหมาะสมสถานการณ์มากขึ้น ซึ่ง ศบค.ชุดเล็กเน้นย้ำว่า ปรับลดเตียงขอให้คงเตียงเหลืองแดงไว้ มีความจำเป็นเตรียมสถานการณ์รองรับหากมีการเปลี่ยนแปลง” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวว่า สำหรับ กทม.ยังติดเชื้อวันนี้สูงสุด 2,911 ราย โดยกลุ่มที่ไม่ติด 10 อันดับแรก แต่มีไทม์ไลน์ติดเชื้อคล้ายกัน เช่น เชียงใหม่ พบกลุ่มจัดงานเลี้ยง วงเหล้า ส่วนสังสรรค์ในสถานที่ราชการ เช่น สำนักงานการไฟฟ้าที่ศรีสะเกษดื่มน้ำกระท่อม การจัดเลี้ยงรวมกลุ่ม ประจวบคีรีขันธ์ คลัสเตอร์ ร.ร.นายสิบ ผลบวก 62 ราย ชลบุรี 2 คลัสเตอร์ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ และกำลังพลนายเรือ เพชรบุรี สระบุรี แคมป์ก่อสร้าง จันทบุรี คลัสเตอร์ตลาด สะท้อนให้เห็นว่า จังหวัดเหล่านี้ไม่ติดใน 29 พื้นที่แดงเข้มที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง แต่ต้องจับตาเฝ้าระวัง การรวมกลุ่ม โดยเฉพาะคนใกล้ชิดคุ้นเคยมีการเลี้ยงสังสรรค์พบปะกัน รับประทานอาหารเปิดหน้าเป็นความเสี่ยง

“ศบค.ชุดเล็กหารือเน้นย้ำไปที่ ร.ร.ประจำด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่ ร.ร.ประจำทั่วไป รวมถึงร.ร.ทหาร มีศูนย์ฝึกหน่วยฝึกต่างๆ นร.อาจจะอยู่กินนอนใน ร.ร.ประจำ แต่ครูบุคลากรในโรงเรียนเหล่านี้อาจเดินทางเข้าๆ ออกๆ ต้องฝาก เพราะ ผอ.ศบค.เน้นย้ำในที่ประชุมสภากลาโหม ผบ.เหล่าทัพขอให้กวดขันมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด” พญ.อภิสมัยกล่าว

พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า เร็วๆ นี้จะมีเทศกาลสำคัญ 2-3 อย่างขอให้ระวังด้วย คือ 1.เทศกินเจ เริ่มวันที่ 4 ต.ค. หลายพื้นที่เตรียมจัดงาน ขอให้ฟังมาตรการทางสาธารณสุข โดย สธ.กำลังเรียนไปทุกจังหวัดผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ให้เหมือนตอนเทศกาลสงกรานต์จัดได้ เพราะสำคัญ แต่มีมาตรการวิถีใหม่

2.งานมุทิตาจิต โดยเฉพาะหน่วยงานราชการ ที่มีการเกษียณ แสดงความยินดีเลื่อนระดับ บางคนมีโรคประจำตัวและสูงอายุ เข้าใจว่างานสำคัญ เพราะบุคลากรเกษียณอายุ เป็นบุคคลที่รัก จัดงานแสดงออกความขอบคุณให้เกียรติยกย่อง ฝากเน้นย้ำมาตรการสาธารณสุข จัดพิธีกรรมสวมหน้ากากเว้นระยะ ไม่สัมผัส ไม่เลี้ยงสังสรรค์ ไม่รับประทานอาหารให้ทุกคนเปิดหน้ากาก โดยหน่วยงานภาครัฐจะต้องเป็นตัวอย่าง

ส่วนกรณีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาหารือ กทม. เสนอแผนว่าจะมีการจัดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว กทม.Sandbox วันที่ 15 ต.ค. ศบค.ชุดเล็กรับทราบ แต่ยังไม่ถือเป็นมติอนุมัติ ทั้งนี้ การเสนอแผน Sandbox จะเหมือนกันทุกพื้นที่ คือ ทำเป็นขั้นตอน พื้นที่หารือในส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องเสนอผ่าน สธ.มีการตรวจสอบมาตรการรอบคอบ ประณีต รัดกุม อย่าง กทม.พื้นที่ใหญ่ มีความหลากหลาย ต้องพิจารณาอย่างละเอียด และหารือร่วม ศปก.ศบค. และเสนอผ่านอนุมัติโดย ศบค.ชุดใหญ่

“สธ.จะพิจารณาแง่ความพร้อมพื้นที่ มาตรการควบคุมโรคมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน ถ้ารายงานผู้ติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์ พื้นที่รับมืออย่างไร ต้องประเมินตนเองของพื้นที่ โดยสาธารณสุข และหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ที่เกี่ยวข้อง กว่าจะมาเป็นพื้นที่นำร่องได้อย่างภูเก็ต Sandbox ซึ่งการพบผู้ติดเชื้อไม่ได้หมายความว่าจะดำเนินการไม่ได้ ระบบสาธารณสุขต้องมีความพร้อม อย่างภูเก็ตดำเนินการอย่างดี ส่วนหนึ่งดึงทรัพยากรส่วนกลาง รักษาสอบสวนโรค เข้าไปช่วยกัน” พญงอภิมัยกล่าวและว่า ส่วนคำถามการกักตัว 14 วันจะยกเลิกหรือไม่ คำตอบเดียวกันคือ มติวันนี้ยังคงมาตรการกักตัว 14 วันไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในส่วน AQ จะทบทวนการเปลี่ยนเป็นสถานที่พัก SHA Plus ให้บริการนักท่องเที่ยวได้ เพราะบุคลากรใน AQ ก็ฉีดวัคซีนไปแล้ว ให้ติดตามมติศบค.ชุดใหญ่