‘ไทยสร้างไทย’ จี้รัฐบาลแก้ปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ตรงจุด

ไทยสร้างไทย จี้รัฐบาลแก้ปัญหาเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ตรงจุด ชี้ หัวใจสำคัญต้องแก้ปัญหาด้วยเกษตร 3 ฐาน ความต้องการของตลาดนำการผลิต(Demand) ,ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต

วันที่ 17 กันยายน 2564 นายทองหล่อ พลโคตร รองประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าในฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวที่จะมาถึงในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ ตนยังไม่เห็นมาตราการของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด ทั้งในเรื่องของราคาข้าว และการสนับสนุนด้านอื่นๆ พรรคไทยสร้างไทย มีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จึงเห็นว่าควรมีการแก้ไขปัญหาโครงสร้างการเกษตร ด้วยยุทธศาสตร์ เกษตร 3 เส้า หรือ เกษตร 3 ฐาน ประกอบด้วย ความต้องการของตลาดนำการผลิต (Demand) ,ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต เพื่อเป้าหมาย ‘หายจน หมดหนี้ มีรายได้ทั้งปี’

โดยยุทธศาสตร์เกษตรฐานแรก ว่าด้วยเรื่องความต้องการของตลาดนำการผลิต (Demand) ต้องแบ่งเป็น 2 ประเด็นหลัก คือว่าด้วยการผลิตประเภทปริมาณคุณภาพ และความต้องการของตลาดในระดับพื้นที่ ระดับประเทศ ระดับภูมิภาคอาเซียน และระดับโลก

“รัฐจะต้องมองความต้องการข้าวของตลาดในแต่ละระดับให้ชัดเจน เพราะความต้องการของตลาดโลกในปัจจุบัน มุ้งเน้นการบริโภคข้าวสายพันธุ์พื้นนุ่ม แต่ไทยยังผลิตข้าวขาวสายพันธุ์พื้นแข็ง ดังนั้นเพื่อสนองต่อความต้องการของตลาด ควรจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการผลิตสายพันธุ์ข้าวรองรับความต้องการดังกล่าวด้วย

ส่วนระดับภูมิภาคอาเซียน รัฐต้องมองปัจจัยความต้องการ และฐานการผลิตข้าวของแต่ละประเทศ หากรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว จะทำให้ไทยเป็นรองประเทศลาว กัมพูชา และพม่า ที่จะเป็นคู่แข่งสำคัญในการส่งออกข้าวสู่ตลาดโลกในอนาคตอันใกล้นี้”

นายท่องหล่อ กล่าวเพิ่มเติมว่ายุทธศาสตร์ เกษตรฐานที่ 2 คือ การลดต้นทุน รัฐจะต้องจัดหาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เช่าที่นา และรัฐต้องสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน (lnfrastructure) เช่นถนน ไฟฟ้าและน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงการส่งเสริมเทคโนโลยี และนวัตกรรมการเกษตร และการลดการใช้ปุ๋ยเคมีมาสู่ปุ๋ยชีวภาพเท่าที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นข้าวปลอดภัยสารพิษ แล้วค่อยต่อยอดเป็นข้าวอินทรีย์ ตามความต้องการของท้องตลาด

“แหล่งทุน เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเกษตรกรชาวนา เพราะประชาชนได้นำทุนทรัพย์ทั้งหมดมาใช้ประทังชีวิตโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด ที่สร้างเดือนร้อนทุกหย่อมหญ้า พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่ารัฐบาลจำเป็นต้องหาแหล่งทุนการเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนา ไม่ให้ไปกู้หนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นวงจรอุบาว์หนี้ที่วนเวียนไม่รู้จบ”

ทั้งนี้ นายทองหล่อ กล่าวเพิ่มเติมว่ายุทธศาสตร์สุดท้าย เกษตรฐานที่ 3 เรื่องการเพิ่มผลผลิต จะต้องมีความสัมพันธ์กับการลดต้นทุน ซึ่งปัจจุบันผลผลิตข้าวนาปีของไทย อยู่ 500 กิโลกรัมต่อไร่ อยู่ลำดับที่ 6 ของภูมิภาคอาเซียน เหนือกว่าเพียงประเทศกัมพูชา ,ลาว,พม่า เท่านั้น และเมื่อเทียบกับจีนและญี่ปุ่นที่ผลิตข้าวได้ 1,100 กิโลกรัมต่อไร่ จะเห็นได้ว่าตัวเลขการผลิตของไทยยังไม่ได้ครึ่งของการผลิตข้าวของจีน และญี่ปุ่น

“การเพิ่มผลผลิต ไม่ควรปลูกข้าวด้วยการหว่าน แต่ควรจะต้องปลูกข้าวแบบปราณีต กล่าวคือ ‘ต้องทำให้น้อย แต่ได้ผลผลิตมาก ไม่ใช่ทำให้มาก แต่ได้ผลผลิตน้อย’ เพราะจะเพิ่มต้นทุน และเวลา

ทั้งนี้ หากไม่มีการปรับตัวด้วยยุทธศาสตร์ เกษตร 3 ฐาน จะส่งผลให้ไทยไม่สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ ชาวนาไทยก็จะไม่สามารถลุกขึ้นมายืนด้วยลำแข้งได้ เหมือนกับอดีตที่ผ่านมา และรัฐจะต้องส่งเสริมเกษตรกรชาวนาผ่านโครงการจำนำข้าว หรือ ประกันราคาข้าวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”นายทองหล่อกล่าวทิ้งท้าย
https://www.facebook.com/101535845426970/posts/181004534146767/