วรรณสิงห์ สัมภาษณ์ ‘ไอโอตัวจริง’ รับมีทุกยุค-ทุกกระทรวง ใช้โจมตีฝ่ายตรงข้าม

กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางบนโลกโซเซียล หลังจากที่ ‘วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล’ ได้ลงคลิปใหม่ ‘IOตัวจริงแหกวงการไอโอ : เถื่อนTalk [คนใน]’ ผ่านช่อง เถื่อนChannel ที่มีผู้ติดตามกว่า 4.5 แสนคน โดยภายในคลิปวรรณสิงห์ได้สัมภาษณ์ “IO ตัวจริง” ที่ได้มาเปิดเผยทุกเรื่องในวงการ IO (ไอโอ)

โดยผู้ให้สัมภาษณ์นั้นได้ออกมาเปิดเผยว่า ‘ไอโอ’ นั้นมีอยู่ในทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ หรือแม้กระทั่งเป็นไอโอจากบริษัทเอกชน ที่มีหน้าที่ในการรับงานรับเงินจากพรรคการเมืองหรือภาครัฐ เพื่อใส่ข้อมูลหรือตอบโต้ ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายมา ซึ่งหน้าที่ไม่ได้แตกต่างกันมาก จะต่างก็เพียงดีเทลเล็ก ๆ เท่านั้น

และเขานั้นทำงานเป็น ‘ไอโอ’ อยู่ในสังกัดหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง เป็นเหมือนคนทำงานราชการทั่วไป มีเงินเดือนหลักหมื่น มีเบี้ยเลี้ยงหลักพัน ซึ่งงานของเขาก็คือเป็น คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ เพื่อตอบโต้ตามที่ได้รับภารกิจมานั่นเอง

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

สมัยก่อนนั้นการทำงานของไอโอจะทำงานเหมือนบอท บางครั้งก็ก็อปปี้ข้อความไปโพสต์แบบเหมือนกันหมด แต่เดี๋ยวนี้จะเนียนและแยบยลขึ้นกว่าเดิม อาทิ ท็อปคอมเมนต์ของเพจนั้น ๆ โจมตีรัฐบาลแรง ทางไอโอก็จะใช้แอคเคาท์ที่เหมือนคนจริง ๆ เข้าไปตอบโต้ด้วยข้อมูล มีอารมณ์บ้าง จิกกัดบางแล้วแต่กลยุทธ์

ในการสร้างแอคเคาท์นั้นบางแอคเคาท์ก็เหมือนคนที่ใช้ชีวิตจริงทั่วไป มีรูปโปรไฟล์คนปกติแต่จะนำรูปคนอื่นมาใช้ อาจจะเป็นจากประเทศเพื่อนบ้านที่ดูคล้ายกับคนไทย และโพสต์เหมือนใช้ชีวิตปกติทั่วไป ทำให้แอคเคาท์ดังกล่าวดูมีความเชื่อถือมาขึ้น ซึ่งตัวเขานั้นมีแอคเคานท์เฟซบุ๊ก 50 แอค และทวิตเตอร์อีก 40 แอค

เขากล่าวว่าทางหน่วยงานราชการจะเน้นไปที่เฟซบุ๊กมากที่สุด รองลงมาก็จะเป็นทวิตเตอร์ ในบางครั้งเขาก็คุยกับตัวเอง เพื่อเรียกแขกโดยเฉพาะ อาทิเรื่องของม็อบ ซึ่งในวันหนึ่งก็อาจจะมีการปล่อยออกไปเป็นพันคอนเทนต์ จากไอโอหลาย ๆ หน่วยงาน

โดยคอนเทนต์ที่ทำนั้นก็จะมี 3 ระดับคือ เทาดำ เทา ขาว โดย สีดำ คือตอบโต้ที่รุนแรง ดาร์ก หยาบคาย สีเทา คือให้ความรู้ แต่ก็ยังมีการจิกกัดเหน็บแหนบ ใช้ภาษาทั่วไปไม่ราชการ และ สีขาว คือตอบโต้ด้วยการให้ความรู้ ให้ข้อมูลที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้รัฐบาลได้

ในแต่ละวันเมื่อเขาก็จะตื่นขึ้นมาก็ต้องเช็กว่าวันนี้โซเชียลมีเดียมีประเด็นอะไร บางครั้งนายก็ส่งประเด็นมาให้และสั่งการว่าต้องการให้มีการตอบโต้แบบไหนและก็จะมีการมอนิเตอร์ พวกเพจดัง เพจนักการเมืองฝั่งตรงข้าม หรือสำนักข่าวใหญ่ ๆ ว่าทิศทางของคอมเมนต์ไปในแนวทางใด จากนั้นจะมีทีมเข้าเวรคอยเช็กฟีดแบกและเก็บข้อมูลต่าง ๆ

โดยในช่วงที่ผ่านมานั้นไอโอจะทำงานกับม็อบเยอะมาก อย่างกรณี ที่มีผู้ชุมนุมขึ้นไปยืนบนตู้คอนเทนเนอร์แล้วทำท่าฉี่ใส่เจ้าหน้าที่ ไอโอจะทำงานด้วยการแคปภาพให้ชัด ๆ นำไปแชร์ตามเพจต่าง ๆ พร้อมกับไปสืบว่าเขาเป็นใคร และบอกว่าคุกคามเจ้าหน้าที่เป็นต้น โดยทำไปเลย 3 ระดับ และเล่นเรื่องดังกล่าวจนกว่านักข่าวจะหยิบไปทำข่าว

พร้อมทั้งกล่าวว่าทางรัฐบาลนั้นฉลาดกว่าที่เราคิด เขารู้หมด เรื่อง “ด่าให้ตายเขาก็ไม่รู้สึก” นั้นเป็นเรื่องจริง เพราะมีรายงานตลอด อยู่ที่ว่าเขาจะสนใจหรือไม่ เขาแค่มีวิธีที่แยบยลกว่านั้นเยอะ และยังมีการยอมรับว่ารัฐบาลนั้นใช้งบประมาณจำนวนมากไปกับไอโอ โดยทุกหน่วยงานรัฐ กระทรวง ทบวง กรม มีไอโอหมด

ซึ่งในบางครั้งก็อาจจะเอาพนักงานในหน่วยงานก็มาทำงานในส่วนนี้ โดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ในส่วนของ ‘งบประมาณการใช้สื่อ’ ที่ถูกเบิกจ่ายทุกปีงบประมาณอยู่แล้ว แต่จะไม่เขียนเบิกตรง ๆ ว่าใช้ทำไอโอ แต่จะเขียนว่า “เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องของหน่วยงาน”

ทั้งนี้ไม่ใช่แค่รัฐบาล ฝ่ายค้านก็มีไอโอเหมือนกัน ลักษณะการทำงานก็ไม่ต่างกัน และบางครั้งไอโอเอกชนก็รับงานทั้งรัฐบาลทั้งฝ่ายค้าน และยังกล่าวว่าหากเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานหรือองค์กร อาทิ เรื่องดราม่า บันเทิง ดาราไอโอก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเสียเท่าไหร่ เพราะไม่ได้มีประโยชน์อะไรไม่รู้จะเบี่ยงเบนทำไม

และยังเล่าว่าไอโอนั้นมีนานกว่า 30-40 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมามีในรัฐบาลนี้ โดยการทำงานของไอโอที่เด่นชัดที่สุดก็คือเรื่อง ‘สถานการณ์ไฟใต้’ มีการปล่อยข่าวลือ-ข่าวกรองสารพัด เพื่อให้ไปถึงหูนักข่าว แต่ในทุกวันนี้โลกอินเตอร์เน็ตมันสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทำให้ไอโอเติบโตได้ง่ายกว่า รัฐบาลไหนก็ยังจะมีและทุกประเทศก็มีไอโอไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้น

โดยภายในคลิปยังมีการพูดถึงเรื่องราว แนวคิดของตัวเขาเองถึงสิ่งที่ตัวเองทำ ผลกระทบต่าง ๆ การดูว่างานไอโอชิ้นไหนสำเร็จ และวิธีการมองว่าใครเป็นไอโอหรือไม่อีกด้วย สามารถเข้ามารับชมและรับฟังคลิปดังกล่าวแบบเต็ม ๆ ได้ที่ช่อง เถื่อนChannel