ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
รัฐบาล แจง “ปุ๋ยแพง” เหตุจีนลดส่งออกวัตถุดิบ หลังอินเดียประมูลซื้อจำนวนมาก ประกอบกับค่าขนส่งสูงขึ้น แนะเกษตรกรหันปลูกเกษตรอินทรีย์
วันที่ 13 ก.ย. 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “แจงให้เคลียร์กับทีมโฆษกรัฐบาล” ถึงการแก้ปัญหาปุ๋ยแพง ว่า ที่ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากแม่ปุ๋ย เช่น ยูเรีย ฟอสเฟต และโพแทสเซียม ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เกือบ 100% โดยผู้ผลิตรายใหญ่ คือประเทศจีน มีนโยบายที่ส่งออกน้อยลง ขณะที่อินเดียไปประมูลซื้อจากจีนมาจำนวนมาก เมื่อพ่วงกับค่าขนส่งสินค้าทางเรือที่มีค่าระวางสูงขึ้น ทำให้ราคาปุ๋ยในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการแล้วคือกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมผู้ผลิตปุ๋ย ได้จัดโครงการพาณิชย์ลดราคาปุ๋ยช่วยเกษตรกร ตั้งแต่เดือน ก.ค. และขยายไปจนถึง 31 ต.ค. นี้ โดยจำหน่ายผ่านสถาบันเกษตร ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นการตรึงราคาปุ๋ยไม่ให้เป็นภาระกับเกษตรกร คือสหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ขณะนี้มีปุ๋ยเคมีที่ร่วมโครงการ 84 สูตร ปริมาณ 4.5 ล้านกระสอบ โดยผู้สนใจสามารถติดต่อเกษตรอำเภอและเกษตรจังหวัดได้
ทั้งนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนเกษตรกรเปลี่ยนจากการปลูกพืชที่ใช้ปุ๋ยเคมีมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ โดยร่วมโครงการเกษตรอินทรีย์กับรัฐบาล ที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ปลูกเกษตรอินทรีย์ในปี 2565 ถึง 1.3 ล้านไร่ โดยรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณในปี 2564 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกเกษตรอินทรีย์ เพราะดีต่อสุขภาพ และเฉลี่ยทั่วโลกสินค้าเกษตรอินทรีย์โตขึ้นถึง 20%