‘จุรินทร์’ ยันแก้ รธน.ผ่านเท่ากับลดอุณหภูมิทางการเมือง-มีรูระบายได้บ้าง จากนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ทุกอย่างต้องทำตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัติย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองมีความเห็นไม่สอดคล้องกันในการผ่านวาระสามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอาจจะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าตนไม่สามารถตอบได้ และไม่ทราบว่าจะมีการยื่นหรือไม่ ซึ่งต้องรอดูภายใน 15 วันนับจากวันที่ 10 ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปิดให้ยื่นได้ ก็ต้องมีเสียงครบตามรัฐธรรมนูญที่จะยื่นหรือไม่ หากจะยื่นศาลต้องวินิจฉัยภายใน 30 วัน หากพ้นจากนั้นก็ถือว่าไม่มีการยื่นให้ศาลก็จะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งเป็นเงื่อนไขตามที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ส่วนความเห็นที่ไม่ตรงกันในแต่ละพรรคการเมืองเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญไปในรูปแบบไหน บัตรใบเดียว หรือบัตร 2 ใบ พรรคการเมืองก็มีได้มีเสียทั้งนั้น แต่ถ้าเราไปมองประโยชน์พรรค รัฐธรรมนูญคงแก้ไขได้ลำบาก และหาจุดลงตัวหรือจุดบรรจบลำบาก ก็จะต้องไปดูในภาพรวม ถ้าการแก้รัฐธรรมนูญเดินหน้าไปสู่การที่จะทำให้ระบบพรรคการเมืองเข้มแข็งหรือไม่ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ ถ้าเรามองสองจุดนี้จะทำให้เราตัดสินใจได้ไม่ยาก และเป็นการตัดสินใจเพื่อหลักการที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่ใช่ประโยชน์ของแต่ละพรรคการเมือง

“ยืนยันว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้จะทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งขึ้น เพราะถ้าเป็นบัตร 2 ใบ เลือกคน เลือกพรรค จะทำให้พรรคการเมืองต้องแข่งขันกันปฏิบัติภารกิจที่เป็นที่พอใจของประชาชน เนื่องจากจะมีคะแนนพรรคอยู่ด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การทำให้พรรคการเมืองได้พัฒนาตัวเองขึ้นไป และเดินหน้าไปสู่ความเข้มแข็งขึ้นต่อไปในอนาคต เพื่อทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเข้มแข็งขึ้นต่อไปด้วย เพราะฉะนั้นระบบบัตร 2 ใบมันชัดเจน แต่บัตรใบเดียวจะเลือกคนกับพรรค แยกจากกันไม่ได้ เอาพรรคมาบวกกับคน ก็เลยกลายเป็นว่าพรรคเหมือนจมหายไปใน 1 คะแนนนั้น” นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า หลังจากนี้หากรัฐธรรมนูญบังคับใช้ก็ต้องทำกฎหมายลูกเพื่อให้สามารถดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถ้าจะมีในอนาคตสามารถดำเนินการได้ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไป เช่นเดียวกันแต่ละพรรคการเมืองที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเชื่อว่าแต่ละพรรคก็มีแนวทางของตัวเองอยู่แล้ว ต่อไปก็ต้องเลือกทั้งคนดีที่เป็นที่พอใจของประชาชนและจะต้องทำให้พรรคการเมืองนั้นๆ เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ว่าถ้าเลือกเข้ามาแล้วพรรคการเมืองนั้นๆ จะมีวุฒิภาวะพอที่จะเข้ามาทำหน้าที่

เมื่อถามว่าหากมองอย่างนี้แสดงว่าการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้เพราะต้องรอให้ทำกฎหมายลูกเสร็จก่อน นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ เราไม่ทราบว่าถัดจากนี้ไปการเมืองจะสะดุดอะไรหรือไม่ แต่ที่สุดอาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ เราไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะฉะนั้นเราก็ทำไปตามหน้าที่ และทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามเงื่อนไขของเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

เมื่อถามว่าเท่ากับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านในครั้งนี้เหมือนเป็นการลดอุณหภูมิทางการเมืองและสถานการณ์การชุมนุม นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นอย่างนั้น เหมือนกับที่ตนเคยเตือนไว้ก่อนการลงมติ ถ้าคิดกลับกันหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน หลายฝ่ายก็จะกลายเป็นจำเลยทางการเมือง เป็นข้ออ้างในการวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปอีกว่าสุดท้ายรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถแก้ได้จริง ประเด็นเดียวยังแก้ไม่ได้เลย แล้วจะหาทางออกให้ประเทศได้อย่างไร หาทางออกในระบบยังไม่ได้ แล้วเราจะไปทางไหนกัน ก็กลายเป็นปัญหาอีก ดังนั้น แก้รัฐธรรมนูญจึงเป็นเรื่องที่ดี อย่าน้อยก็ช่วยลดอุณหภูมิทางการเมือง หรือมีช่องที่กาต้มน้ำมีรูระบายได้บ้าง ซึ่งไม่ใช่ระบายไปในทางที่ผิด แต่ระบายให้การเมืองเข้มแข็งขึ้น