ไม่กลัวสูญพันธุ์! 7 พรรคเล็กแถลงโหวตคว่ำร่างแก้รธน. วาระ 3 ห่วงเสียงตกน้ำ

7 พรรคเล็ก แถลงจุดยืน โหวตคว่ำร่างแก้รธน.วาระ 3 อ้างไม่ได้กลัวสูญพันธุ์ แต่ห่วงเสียงตกน้ำ วอนส.ส.-ส.ว.ร่วมลงมติคว่ำ ขู่หากผ่าน ยื่นศาลรธน.ตีความแน่

วันที่ 8 ก.ย.2564 เมื่อเวลา 11.20 น. ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ พร้อมตัวแทน 6 พรรคเล็กร่วมรัฐบาล ได้แก่ พลเมืองไทย ครูไทย ไทรักธรรม ประชาธรรมไท พลังชาติไทย เพื่อชาติไทย แถลงจุดยืนในการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระที่ 3 ในวันที่ 10 ก.ย.ว่า กลุ่มพรรคเล็กมีมติโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้

ด้วยเหตุผลว่า รัฐธรรมนูญปี 60 ผ่านการทำประชามติจากประชาชนแล้ว อีกทั้งร่างแก้ไขฉบับนี้ ยกเลิกระบบจัดสรรปันส่วนผสม ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนตัวเล็กๆ เข้ามามีทำงานในสภา รวมถึงล้มระบบ ส.ส.พึงมีที่ถือเป็นระบบที่ยุติธรรมที่สุด และยังล้มหลักการเรื่องคะแนนเสียงตกน้ำ จากเดิมที่นำมารวมเป็นคะแนนของพรรคการเมืองได้ตกน้ำไป

นพ.ระวี กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50 ที่ใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำให้เห็นว่า เกิดรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดเผด็จการรัฐสภา มีการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายมโหฬารอย่างโจ่งแจ้ง ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการที่พรรคเล็กประกาศคว่ำ เพื่อรักษาผลประโยชน์ไม่ให้สูญพันธุ์นั้น เหมือนจะใช่แต่ไม่ใช่ เพราะถ้าผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พรรคเล็กจะสูญพันธุ์ พรรคขนาดกลางจะถูกแช่แข็งไปด้วย ยืนยันว่าพรรคเล็กมีจุดยืนเรื่องนี้มาตลอด

นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่าพรรคเล็กชอบกินกล้วย หรือเป็นพรรคปัดเศษนั้น เคยมีกล้วยที่ไหนให้พรรคเล็ก มีแต่พรรคใหญ่ที่มีรัฐมนตรีได้เงินทอนจากโครงการต่างๆ ซึ่งการที่พรรคเล็กกล้าโหวตสวน เพราะพรรคเล็กไม่มีรัฐมนตรี จึงไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง

นพ.ระวี กล่าวว่า ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ขอเรียกร้องให้ส.ส.โหวตคว่ำร่วมกับพรรคเล็ก รวมถึงเรียกร้องให้ส.ว.คิดให้รอบคอบร่วมโหวตคว่ำร่างฉบับนี้ด้วย เพราะถ้า ส.ว.สนับสนุนไม่ถึง 84 เสียง จะทำให้ร่างนี้ตกไป แต่หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน กลุ่มพรรคเล็กจะร่วมกับพรรคขนาดกลางลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากจะแก้รัฐธรรมนูญจริงๆ ขอให้ทำประชามติก่อน ซึ่งพรรคเล็กพร้อมสู้ในระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ถ้าผ่านความเห็นของประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพรรคเล็กปัจจุบันมี 9 พรรค โดย 7 พรรคแรกไม่สนับสนุนบัตร 2 ใบ ขณะที่อีก 2 พรรค คือ พรรคประชาธิปไตยใหม่ กับพรรคประชาภิวัฒน์ สนับสนุนบัตร 2 ใบ