กลายเป็นอีกหนึ่งกระแสสุดร้อนแรงหลังจากที่ กลุ่มนักเรียนเลว ได้นัดสไตรก์หยุดเรียนออนไลน์ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พร้อมทวงคืนชีวิตและอนาคตคืน

ทางเพจเฟซบุ๊ก นักเรียนเลว นั้นได้ชักชวนให้เหล่านักเรียนร่วมกัน ‘หยุดเรียนออนไลน์’ กันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ โดยเริ่ม 6-10 กันยายนนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และเรียกร้องทวงคืนชีวิตและอนาคตคืน

โดยข้อเรียกร้องหลัก ๆ นั้นจะประกอบไปด้วย รัฐบาลต้องนำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงมาฉีดให้นักเรียน นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนทั่วไป และกระทรวงศึกษาธิการต้องออกคำสั่งปรับลดตัวชี้วัด ชั่วโมงการเรียน ภาระงานของครูและนักเรียนให้ชัดเจน รวมไปถึงปรับหลักสูตรการศึกษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เป็นต้น

ซึ่งทางกลุ่มนักเรียนเลว ได้นำเสนอ 3 วิธีการสไตรก์ ให้ทุกคนได้เลือกใช้ได้ตามความสะดวก
1. ไม่เข้าเรียน เมื่อครูส่งลิงก์เรียนออนไลน์มา ให้ปิดอุปกรณ์แล้วนอนต่อ
2. เปลี่ยนรูป ด้วยการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ หรือภาพพื้นหลัง เป็นข้อเรียกร้องพร้อมกันทั้งห้อง
3. เช็กชื่อแล้วออก คือ เข้าห้องเรียนตามปกติ แต่พอเช็กชื่อครบทุกคนแล้ว ให้ออกจากห้องเรียนออนไลน์ทั้งหมด

ทั้งยังมีการเปิดใช้งานเว็บไซต์ลงชื่อขาดเรียน นับจำนวนคนสไตรก์แบบเรียลไทม์ ที่จะปรากฎชื่อของโรงเรียน และจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนั้น ๆ โดยในวันแรกมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 5,574 คน ทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกิจกรรมดังกล่าวเป็นอย่างมาก มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย กับการทำกิจกรรมดังกล่าว

และวานนี้ (6 ก.ย.) กลุ่มนักเรียนเลว ยังได้จัดกิจกรรมบนทางเดินสกายวอล์ก แยกอโศกมนตรี โดยนำแผ่นป้ายขนาดใหญ่เขียนข้อความ “เด็ก1.8 ล้านคน กำลังหลุดจากระบบการศึกษา เพราะการเรียนออนไลน์ที่ไม่เห็นหัวเด็ก”

ก่อนที่จะมีเด็กนักเรียนหญิง ซึ่งเป็นตัวแทน กลุ่มนักเรียนเลว ได้ปีนออกจากรั้วทางเดินสกายวอล์ก จากนั้นได้นำเชือกมาผูกไว้ที่ตัว นำสีแดงมาราดใส่เสื้อผ้า และตามลำตัว จากนั้นได้ทิ้งตัวลงมา เสมือนจำลองภาพผูกคอ เพื่อเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ ทำให้ภาพดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างหนักในโลกอินเตอร์เน็ต