‘เพื่อไทย’ เผย คกก.จริยธรรมเตรียมถกความผิด ส.ส.โหวตสวน จันทร์นี้

โฆษกพรรคเพื่อไทย เผย คกก.จริยธรรมเตรียมเรียกประชุมจันทร์นี้ พิจารณาความผิด ส.ส.โหวตสวนมติพรรค พร้อมเดินหน้าบี้รัฐโชว์ใบเสร็จซื้อซิโนแวค ระบายยางในสต๊อกทำประเทศเสียหาย

วันที่ 5 กันยายน 2564 นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส. ของพรรคจำนวนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า ส.ส. ที่มีเจตนาฝ่าฝืนมติของพรรค ทั้งขาดประชุมโดยไม่มีเหตุผล ตั้งใจให้ร้ายกับพรรคด้วยความเท็จ และผู้ที่มีลักษณะที่บ่งบอกว่าไม่ต้องการจะอยู่กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคมีการประชุมในวันจันทร์ที่ 6 กันยายนนี้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงก่อนพิจารณาดำเนินการในขั้นต่อไป หากพบจงใจทำผิดขั้นร้ายแรง พรรคจะดำเนินการขับออกจากสมาชิกพรรคทันทีตามมาตรการขั้นเด็ดขาดของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค ที่ได้ออกหนังสือแจ้งไปยัง ส.ส. ทุกคนก่อนหน้านี้

โฆษกพรรคเพื่อไทยยังกล่าวอีกว่า จากนี้ไปรัฐบาลจะต้องออกมาตอบคำถามที่ฝ่ายค้านได้อภิปรายทั้งหมด ทั้งกรณีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อหากเชื่อมั่นว่าทำถูกต้อง ควรออกมาแสดงใบเสร็จการจัดซื้อ การจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 ของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจีจริงหรือไม่ เหตุใดจึงมีการจ่ายภาษีแวตจนทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์เป็นเงินภาษีหลายร้อยล้านบาท รวมไปถึงการระบายยางพาราในสต๊อกของรัฐบาลว่ามีการขายต่ำกว่าคุณภาพ จากกิโลกรัมละ 37 บาทเหลือ 33 บาทซึ่งอาจจะซ้ำรอยการระบายข้าวดีเป็นข้าวเสีย ซึ่งเป็นข้าวในสต๊อกสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนทำให้ประเทศเกิดความเสียหายหรือไม่

ทั้งนี้เชื่อว่าแม้ฝ่ายรัฐบาลจะชนะเสียงในสภา แต่ไม่อาจทัดทานความต้องการที่แท้จริงของประชาชนได้ ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนจากการบริหารของรัฐบาลที่ผิดพลาดล้มเหลวอย่างแสนสาหัสจนหมดทางออก จากนี้ไปต้องติดตามว่าประชาชนจะระบายความอัดอั้นที่มีต่อรัฐบาลอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพวก ควรต้องคิดให้ดี

แม้จะอยู่ในตำแหน่งต่อ แต่ไม่อาจมีที่ยืนในใจของประชาชนต่อไปได้ เพราะแม้แต่เสียงโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลเองยังต่ำ ได้คะแนนเกือบลำดับท้ายสุดในบรรดารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด สะท้อนถึงความล้มเหลว ความไม่เชื่อมั่น และความสั่นคลอนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีแต่คนเกลียด จากนี้ไป พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกจับตาการทำงานจากฝ่ายค้าน และแม้กระทั่งคนในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน