ศรีลังกาประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ หลังประสบเงินเฟ้อหนัก-ราคาอาหารพุ่ง

ศรีลังกาประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อหนัก-ราคาอาหารพุ่ง ผลพวงโควิดกระทบเป็นลูกโซ่

ทางการระบุว่าจะเข้าควบคุมอุปทานของสินค้าอาหารพื้นฐาน รวมถึงข้าวสารและน้ำตาล และกำหนดราคาเพื่อพยายามควบคุมเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลแต่งตั้งอดีตนายพลนายหนึ่งเป็นผู้บัญชาการบริการสำคัญ (commissioner of essential services) มีอำนาจยึดคลังสินค้าที่ผู้ค้าและผู้ค้าปลีกครอบครอง

นายโกตาบายา ราชปักษา ประธานษธิบดีศรีลังกา ออกแถลงการณ์ว่า “เจ้าหน้าที่จะได้รับอนุญาตสามารถดำเนินการเพื่อจัดหาอาหารจำเป็นต่อสาธารณชนในอัตราลดหย่อน (concessionary rate) ด้วยการซื้อคลังสินค้ารายการอาหารจำเป็น สินค้าเหล่านี้จะถูกจัดหาในราคาที่รัฐบาลรับรองหรือตามมูลค่าศุลกากรของสินค้านำเข้า เพื่อป้องกันความผิดปกติของตลาด”

Photo by Ishara S. KODIKARA / AFP

การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจมีขึ้น หลังราคาอาหารพื้นฐาน เช่น น้ำตาล หัวหอม และมันฝรั่ง พุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ มีประชาชนต่อแถวยาวด้านนอกร้านรวง เนื่องจากขาดแคลนสินค้าอื่นๆ รวมถึงนมผง น้ำมันก๊าด และก๊าซหุงต้ม

กรมสำมะโนและสถิติของศรีลังการะบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาสินค้าจำเป็นจำนวนมากพุ่งสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา ด้วยอัตรการเงินเฟ้อเดือนต่อเดือนเพิ่มขึ้นเป็น 6% ในเดือนสิงหาคม สาเหตุหลักมาจากราคาอาหารสูงขึ้น

Photo by Ishara S. KODIKARA / AFP

ทั้งนี้ ศรีลังกา ประเทศผู้นำเข้าอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมด กำลังเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น และอยู่ในช่วงเคอร์ฟิว 16 วัน สิ้นสุดวันจันทร์ที่ 6 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ในฐานะประเทศที่มีรายได้หลักจากสกุลเงินต่างประเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจศรีลังกาหดตัวลงมากสุด 3.6% เมื่อปีที่แล้ว

เมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว รัฐบาลศรีลังกาสั่งห้ามนำเข้ารถยนต์และสินค้าๆ อื่นเพื่อพยายามยับยั้งการไหลออของสกุลเงินต่างประเทศ และเมื่อต้นเดือนปีนี้ เริ่มเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียใต้ที่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยายามหนุนค่าเงินรูปีศรีลังกา และช่วยบรรเทาแรงกดดันเงินเฟ้อจากต้นทุนการนำเข้าที่สูง