บิ๊กตู่ ฮึ่ม เตือนกองเชียร์ “ปู” ระวังกม.แรง อัดแกนนำ หัดสงสารปชช.บ้าง ต้องติดคุกก่อนตลอด

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสัญญาณทางการเมืองในช่วงที่จะมีการพิจารณาคดีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า ถามว่าคดีต่างๆที่มีผลต่อกลุ่มการเมือง หรือท่าทีของรัฐบาลชัดเจน อยากให้บ้านเมืองสงบ นำไปสู่การปรองดองได้ คำว่าปรองดองต้องมีกฎหมายเป็นตัวหลัก เป็นตัวบ่งชี้ว่าผิดหรือถูก ไม่ใช่เอาอะไรมาต่อต้านกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคิดว่าประชาชนทั้งประเทศคงไม่ยอมรับ และทุกคดีความก็ตัดสินโดยกระบวนการยุติธรรมทางศาลตามขั้นตอนปกติ ไม่ใช่ คสช.ไปตัดสิน

“สำหรับการประเมินผลกระทบก็เช่นกัน ในช่วงที่กำลังมีคำพิพากษา วันนี้อยากให้สังคมได้เข้าใจ ถ้าใครเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากผิดก็ต้องถูกลงโทษ หากไม่ผิดก็ไม่ถูกลงโทษ ก็เท่านั้นเอง จะมาต่อต้านนอกศาลอย่างนี้ไม่ได้ ซึ่งต้องดูว่าหมิ่นศาลอะไรกันหรือเปล่า เห็นว่าทางฝ่ายศาล ฝ่ายกระบวนการยุติธรรม กำลังดูอยู่ พูดจาให้ร้ายอะไรต่างๆ หรือหมิ่นศาลไม่ได้ ผมจะบอกให้ ผมเป็นห่วงประชาชนที่ไปร่วมในวันพิจารณาคดีต้องระวังด้วย ถ้าไปร่วมแล้วเดือดร้อนขึ้นมา ผมก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรเหมือนกัน เพราะมันผิดกฎหมาย รัฐบาลคงไม่ไปสกัดประชาชนที่จะเข้ามา แต่คิดว่าทุกคนต้องสกัดใจตัวเองมากกว่า ว่าเราจะไปทำไม จะได้ประโยชน์อะไรตรงไหน ไม่ว่าจะไปมากหรือน้อย หรือจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาก็ตาม มันไม่มีผลต่อการตัดสินคดี แล้วจะไปทำไม ศาลจะตัดสินก็ตัดสินไป ถ้าไม่ผิดจะเข้าไปสู้กระบวนการพิจารณาของศาลได้หรือไม่ มันต้องมีอะไรผิด ไม่ผิดคงเข้าไปไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งใดที่เป็นความขัดแย้ง ขอให้เบาๆลงบ้าง ช่วงนี้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ แม้ท่านจะบอกว่าเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง ตนก็เป็นห่วงยิ่งกว่าท่าน ตนเป็นห่วงที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย แล้วใครจะเดือดร้อน ไอ้คนแกนนำเดือดร้อนบ้างไหม กว่าจะดำเนินคดีได้นานหรือไม่ แต่คนที่ติดคุกก่อนคือใคร ประชาชนโดนติดคุกก่อนใช่หรือไม่ สงสารประชาชนเขาบ้าง และประชาชนก็ต้องห้ามใจตัวเองบ้าง อย่าให้เขาพาไปโน้นมานี่ ฉะนั้นหากใครมาก็จะต้องตรวจสอบว่าจะมาอย่างไร ถ้ามาเองก็คงเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว แต่ถ้ามีคนไปรับไปเกณฑ์ เอารถไปรับมา อย่างนี้ไม่ได้ถือว่าผิดกติกา อย่าสร้างความวุ่นวายเลย เขตศาลต้องระวัง โทษมันแรง

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการะทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการเชิญชวนประชาชนผ่านเฟซบุ๊ก ให้เดินทางมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันตัดสินคดีรับจำนำข้าว วันที่ 25 สิงหาคมนี้ ว่า บอกประชาชนไปแล้วว่าคนที่จะให้กำลังใจ ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางมาที่ศาล ไปให้กำลังใจที่ไหนก็ได้ ทั้งนี้มั่นใจว่าจะไม่มีเรื่องความวุ่นวายในวันดังกล่าว ส่วนคนที่จะมาให้กำลังใจต้องดูด้วยหากออกมาแล้วจะทำให้เกิดความสับสนหรือขัดแย้งแบบนั้นไม่สามารถทำได้ และการพิจารณาเรื่องเหล่านี้สืบเนื่องมาจากอดีต ไม่ใช่รัฐบาลไปกระทำ ฉะนั้นเป็นหน้าที่ศาลที่ก็จะตัดสินออกมาตามกระบวนการและพยานหลักฐาน

เมื่อถามว่าหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกพิพากษาให้เข้าเรือนจำ จะปลุกให้เกิดกระแสต่อต้านหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องคดีความว่าตามกระบวนการ การจะเดินทางมารวมตัวเพื่อชุมนุมทำไม่ได้ และเวลานี้เราร่วมกันมาสร้างความสามัคคีปรองดอง จะมารวมตัวกันอย่างนั้นไม่ได้

เมื่อถามย้ำว่านอกจากคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ศาลจะพิพากษาคดีสลายการชุมนุม 2551 ซึ่งมีชื่อพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นจำเลยด้วย จะต้องเพิ่มมาตราการดูแลอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า “ผมไม่เห็นไปเรียกใครมารวมตัวกัน ถามว่าผมเรียกใครมาหรือไม่ และไม่ต้องเพิ่มอะไร ดูแลเหมือนกัน ส่วนเรื่องความผิดนั้นเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมก็ว่ากันไป ไม่ว่าคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็โดนเหมือนกัน จะมาถามว่าถ้าพล.ต.อ.พัชรวาท โดนแล้วผมต้องลุกฮือหรืออย่างไร ถ้าจะโดนก็โดนเหมือนกันทั้งนั้น”

ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงมาตราการรับมือกับมวลชน ที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ภายหลัง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สั่งไม่ให้มีการรวมกลุ่ม ว่า ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามที่หัวหน้า คสช.ระบุ โดยยึดกฎหมายเป็นหลักเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ไม่กระทบต่อบุคคลอื่น

ขณะที่ แหล่งข่าว คสช. กล่าวว่า คสช.มองอย่างเป็นกลางว่าไม่ใช่เป็นการชุมนุมทางการเมือง แต่จะรวมมวลชนเพื่อกดดันศาล ซึ่งศาลทำหน้าที่เพียงมานั่งอ่านคำพิพากษาเท่านั้น โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะมีมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ แต่ขณะนี้ยังมีเวลาอีก 1 เดือน ยังไม่สามารถประเมินท่าทีของพรรคการเมืองว่าจะมีการเคลื่อนไหวมวลชนอย่างไร หรือคิดอย่างไร ความคุ้มค่าและความคุ้มได้คุ้มเสียทางพรรคการเมืองก็ต้องมามองกัน ทั้งนี้ทางหัวหน้าคสช. ประเมินมาแล้ว คงไม่อยากให้รถที่วิ่งผ่านไปผ่านมา ทำการจราจรติดขัดทำให้มีผลกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนน

แหล่งข่าวคสช. กล่าวว่า สำหรับมาตรการในเบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่จะขอความร่วมมือกับมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจและสร้างความรับรู้ความเข้าใจว่าจะต้องปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย ดังนั้นจึงขอความร่วมมือว่าอย่าสร้างกระแสความสับสนวุ่นวาย ขณะนี้บ้านเมืองสงบเราก็เดินไปได้ ยืนยันว่าไม่ได้ห้ามแต่ขอให้มีสติยังคิดว่าในเวลานี้เราควรจะร่วมมือนำพาบ้านเมืองไปข้างหน้า