ป.ป.ท.ลุยค้นโกดังข้าวสุโขทัย พบคนละปีเวียนเทียน ลักไก่เก็บ ภาค6เสียหาย9หมื่นล. 506คดี

เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พื้นที่เขต 6 นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ในฐานะเลขาธิการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม เร่งรัดสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า เดินทางตรวจเยี่ยมโกดังเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า จ.สุโขทัย โดยมี พ.ต.อ.กษิดิศ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผอ.ป.ป.ท.เขต 6 รายงานข้อมูลการดำเนินคดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า โครงการรับจำนำข้าวปี2551-2557

พ.ต.อ.กษิดิศ กล่าวว่า ปปท.เขต 6 ลงพื้นตรวจโกดังเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้าจ.สุโขทัย ซึ่งเป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2551-2557 พบว่ามีความเสียหายในการเก็บรักษา และเป็นข้าวเก่า นอกจากนี้ยังพบว่าข้าวมาจากจ.พิษณุโลก ซึ่งไม่ใช่ข้าวของ จ.สุโขทัย

พ.ต.อ.กษิดิศกล่าวว่า จากคดี ที่ป.ป.ท.เข้าไปดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้า ซึ่งเป็นข้าวในโครงการต่างๆตั้งแต่ปี 2551-2557รวมทั้งสิ้น 990 คดี ป.ป.ท.เขต6 รับผิดชอบ 506 คดี สำหรับข้อมูลคดีข้าวในเขต 6 ในพื้นที่ 8 จังหวัด ประกอบด้วย 1.กำแพงเพชร รวม102คดี 2.นครสวรรค์ รวม 201คดี 3.พิจิตร รวม 60 คดี 4.พิษณุโลก รวม56 คดี 5.เพชรบรูณ์ รวม 46คดี 6.สุโขทัย รวม12 คดี 7.อุตรดิตถ์ รวม 2คดี และ8.อุทัยธานี รวม 27คดี รวม 506 คดี

พ.ต.อ.กษิดิศ กล่าว่า สำหรับพื้นที่ลงตรวจสอบครั้งนี้ เป็นคลังชินธนทรัพย์ หลังที่ 1 อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย เข้าร่วมโครงการ ปี2555/56 กับองค์การคลังสินค้า (อคส) กระทรวงพาณิชย์เก็บข้าวขาว5% แต่ในคลังพบข้าวบางส่วนเป็นปี2552 ,ปี2553 ,ปรัง2555 และมาจากจ.พิษณุโลก ซึ่งไม่ใช่ข้าวของจังหวัดสุโขทัย ข้าวมีสภาพเก่าและเป็นปลายข้าว ไม่ใช่ข้าวขาว5%ตามโครงการฯ

“ข้าวที่ร่วมโครงการฯจะสามารถทราบได้ด้วยตาเปล่าทันทีว่าเป็นข้าวโครงการปีใด ข้าวชนิดใด และมาจากจังหวัดใด เพราะจะระบุไว้บนกระสอบทุกใบ และยังมีสีเชือกที่ระบุว่าโครงการฯใด ซึ่งมีสีแตกต่างกัน” พ.ต.อ.กษิดิศ กล่าว และว่า เจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นกรณีเวียนเทียนข้าวเก่า ที่ได้มีการระบายในปีก่อนหน้าในราคาต่ำจากจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดสุโขทัย แล้วนำมาเข้าโครงการ 55/56 ในราคาข้าวใหม่ หรือนำข้าวเก่ามาสวม


ด้านนายประยงค์ กล่าวว่า คดีทุจริตการเก็บรักษาข้าวในคลังสินค้ามีทั่วประเทศ 990 คดี แต่อยู่ในพื้นที่ เขต 6 รวม8 จังหวัดจำนวน 506 คดี ซึ่งมีปริมาณเยอะมาก มีมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 9 หมื่นกว่าล้านบาทจากแสนกว่าล้านบาท โดยพบทุจริตมากสุด คือ จ.นครสวรรค์ จ.สุโขทัยและ จ.กำแพงเพชร ซึ่งพฤติการณ์น่าเป็นห่วงและมีปัญหาเชิงระบบ หากเกิดปล่อยไว้จะเกิดความเสียหายในอนาคต จึงควรมาต้องทำการศึกษาอย่างถ่องแท้เพราะว่าถ้าปล่อยไว้มันเป็นปัญหาในระยะยาว

นายประยงค์ กล่าวว่า ปปท.ต้องมาศึกษาเพื่อจะนำไปแก้ปัญหาและศึกษาพฤติกรรม รูปแบบพฤติกรรมเพื่อจะนำไปป้องกันการทุจริตในระยะยาวเพราะประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมและยังไร้ที่ทำกินเพราะถ้ามีโครงการใหม่ในลักษณะนี้มาอีกมันก็จะเกิดการทุจริตอีก ทั้งนี้ การดำเนินการป.ป.ท. ที่ปรากฎเป็นข่าวเกี่ยวกับโครงการจำนำปี2554-2557 แต่ที่ป.ป.ท.เริ่มทำเป็นของปี 2551 เป็นต้นมา เพราะฉะนั้นจำนวนคดีจึงมีเยอะ เพราะเป็นโครงการเก็บรักษาข้าว และในส่วนของจำนวนข้าวได้ไปตรวจสอบระหว่างนี้ก็กังวล เพราะสื่อเห็นว่ามีจำนวนเยอะเกินไป

“ยืนยันว่าในแต่ละคดีตัวเลขไม่ผิดอาจจะเป็นตัวเลขรวมที่อาจจะนำมาใช้ในเชิงของการบริหารติดตามคดี ชึ่งแต่ละคดีจะเป็นข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่ที่ลงไปตรวจสอบ ซึ่งถ้าข้อมูลจะคลาดเคลื่อนบ้างก็เป็นส่วนของตัวเลขรวมที่จะเอาใช้ในเชิงบริหารการติดตามคดี เพราะในส่วนแต่ละคดีเป็นข้อมูลที่ได้จากทางคลังสินค้าและองค์การตลาดกล่าวโทษร้องทุกข์” เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า

ส่วนกรณีคลังสินค้าที่ประมูลข้าวบางส่วนมีข้อมูลขัดแย้งกันนั้น ในส่วนการระบายข้าวเป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์ที่จะดำเนินการและส่วนค่าเสียหายก็เป็นเรื่องของผู้เสียหายและเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ที่จะไปดำเนินการเช่นกัน สำหรับผู้ที่ถูกกล่าวหาจะต้องดูพฤติการณ์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้เกิดความเสียหายยังไงบ้างแล้วบุคคลนั้นก็ต้องรับผิดชอบอันนี้คือหลักการ

เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่าเบื้องต้นในส่วนของคณะอนุกรรมการต้องรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานจากทุกฝ่ายเพื่อให้ได้ข้อเท็จริงและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาและเป็นธรรมกับประชาชนด้วยเพราะตอนนี้จริงๆแล้วแม้จะเป็นรายคดีก็จริง แต่ในภาพรวมของประเทศมันมีเยอะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประยงค์ พร้อมได้พาสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจสอบ คลังเก็บสินค้าชินธนทรัพย์1 ม.10 ต.เกาะตาเลี้ยง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งรับผิดชอบในการเก็บรักษา ข้าวนาปี ข้าวขาว 5% แต่ในคลังพบข้าวบางส่วนกระสอบระบุว่า เป็นปี2552 ปี2553 ปรัง2555 และพบบางกระสอบเป็นปลายข้าว เบื้องต้นพบความเสียหายเชิงระบบ และปริมาณ ซึ่งคลังดังกล่าว ทาง อคส.ได้ เช่าบริษัทเอกชนเก็บรักษา


ต่อมาเวลา 11.00 น. นายประยงค์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบคลังชินธนทรัพย์ หลังที่ 1 อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย โดยสภาพภายในคลังเก็บข้าวพบมีกระสอบข้าวจำนวนมากที่อยู่ในสภาพเก่าบางถุงมีร่อยฉีกขาด และมีข้าวหล่นกระจ่ายอยู่รอบบริเวณ

นายประยงค์ กล่าวสำหรับคลังชินธนทรัพย์แห่งนี้ มีพฤติการณ์ที่จะทำให้เกิดความเสียหายในเชิงระบบในระยะยาว โดยโครงการนี้เป็นการเช่าโกดังเพื่อเก็บรักษาข้าวในปี 2555/2556 เป็นโครงการจำนำข้าวนาปี และเป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ มีทั้งหมด 2.9 แสนกระสอบ ซึ่งตอนนี้มีการระบายออกไปเยอะแล้ว เหลือเพียง 4-5 หมื่นกระสอบ จากข้อเท็จริงของการไต่สวนและสังเกตการณ์ มีเหตุบ่งบอกหลายอย่างที่ไม่เป็นไปตามสัญญา คือ มีกระสอบข้าวที่พ่นสีไว้ข้างกระสอบว่าเป็นข้าวนาปรัง ปี 51/52 และมีปลายข้าวผสมอยู่ปี 51/52 และปี 53 ซึ่งลักษณะการกระทำอย่างนี้บ่งบอกว่าเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งไม่สามารถกระทำได้ เพราะมีทั้งคนส่ง คนรับ และคนเฝ้าคลัง ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถ้าไม่หาทางป้องกันต่อไปก็จะเกิดอีก จึงต้องมาตรวจสอบในวันนี้

เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวต่อว่า พอมาเห็นสภาพแล้วน่าจะบ่งบอกได้ว่าเป็นการร่วมมือกันตั้งแต่ต้นทุกฝ่าย มีการวางแผนการตั้งแต่ต้นหรือไม่ เพราะดูแล้วรัฐมีขั้นตอนการดำเนินการ คือ ตั้งแต่รับจำนำ แปรสภาพ ขนส่ง จำหน่าย ซึ่งลักษณะอย่างนี้ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ปกติไม่กล้าทำหรอก เพราะถ้าทำสักวันหนึ่งหากมีการจำหน่ายเรื่องก็จะถูกเปิดเผย แต่ปัญหาคือทำไมกล้าทำ ถ้าไม่มีการตรวจสอบพบก่อน เมื่อมีการจ่ายข้าวออกไป ก็จะไม่มีร่องรอย ดังนั้น จึงได้มาดูข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การป้องกันไม่ให้เกิดต่อไปในภายภาคหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบเหมือนมีลักษณะการนำข้าวออกไปสลับกันเวียนเทียนขายหรือไม่ นายประยงค์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบมีข้าวเก่าปี 2551/2552 จึงตรวจสอบว่ามีการนำข้าวเก่ามาส่งหรือไม่ หรือเพียงแค่นำกระสอบมาใส่เพราะโครงการในลักษณะอย่างนี้จะต้องมีกระสอบเฉพาะ ทำตราสัญลักษณ์ชัดเจนว่าเป็นข้าวปีไหนอย่างไร ตอนนี้บางกระสอบก็พบระบุ บางกระสอบก็ไม่มี ซึ่งต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง

ถามต่อว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องหรือยัง นายประยงค์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีบุคคลใดบ้างที่ต้องเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ผู้รับผิดชอบคนเดิมซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อคส. ได้เกษียณราชการไปแล้ว ซึ่งไม่มีผลในคดีอาญาที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ หากมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้เกิดความเสียหาย ส่วนลักษณะนี้มีเกิดขึ้นที่อื่นอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังพบในจ.สุโขทัย 12 คดี ส่วนที่อื่นที่เราเคยตรวจพบก็จะมีจำพวกการนำข้าวอื่นมาเก็บ มีการล้อมกองข้าวด้วยการนำเอานั่งร้างมาตั้งไว้ตรงกลางและใช้กระสอบข้าวล้อมไว้

รายงานข่าวแจ้งว่าพื้นที่จ.สุโขทัยมีคดีอยู่ระหว่างดำเนินคดีอยู่ 12 คดี เป็นเจ้าหน้าที่ อคส. เป็นผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 8 คดี เจ้าหน้าที่ อตก. เป็นผู้ถูกล่าวหา 4 คดี สำหรับกรณีของคลังชินธนทรัพย์ 1 ซึ่งมีห้างหุ้นส่วนจำกัดชินธนทรัพย์ เข้าทำสัญญาให้เช่าคลังสินค้าในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ในปีการผลิต 2555/2556 กับ อคส. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2556 โดยมีพื้นที่เก็บข้าวสารได้ประมาณ 7,500 ตารางเมตร หรือ 303,750 กระสอบ ทั้งนี้ คณะทำงาน พบว่า คลังสินค้าชินธนทรัพย์ หลังที่ 1 มีข้าวไม่ตรงตามมาตรฐาน และพบกระสอบข้าวที่แสดงรหัสหรือสีเชือกที่ไม่ตรงตามที่องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้กำหนด โดยที่ถูกต้องจะต้องเป็นของปีการผลิต 2555/2556 แต่กลับพบของปีการผลิต 2551, นาปรัง 2552, นาปรัง 2555 และกระสอบไม่มีรหัสแสดงปีการผลิต ทั้งนี้ มีปริมาณข้าวประมาณ 300,000 กระสอบ มูลค่าความเสียหาย 800 ล้านบาท