เผยแพร่ |
---|
วันที่ 24 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บริษัท แกร็บ ผู้ให้บริการรถแท็กซี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะได้รับเงินระดมทุนราว 8 หมื่น 3 ล้านบาทหรือ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสู้ศึกษาเอาชนะคู่แข่งอีกค่ายอย่างอูเบอร์ ในภูมิภาคนี้และเพิ่มการเติบโตด้านแพลตฟอร์มการชำระเงินให้กับแกร็บอีกด้วย
โดยจากการสำรวจประชากรที่ใช้อินเตอร์เน็ตพบว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นสมรภูมิสำคัญในการแข่งขันของสตาร์ทอัพเทคโนโลยีเพื่อคว้าตลาดที่มีผู้คนในภูมิภาคถึง 600 ล้านคน โดยกลุ่มลูกค้าประเภทชนชั้นกลางและคนหนุ่มสาวที่กำลังเติบโต
แถลงการณ์ของแกร็บการลงขันครั้งนี้ ผู้ร่วมลงทุนจากจีนอย่าง ดีดี่ ชู่ซิงและเครือบริษัทซอฟต์แบงก์ของญี่ปุ่น ทั้งสองสนับสนุนทุนเป็นจำนวน 6 หมื่น 6 พันล้านบาท นับเป็นยอดสูงสุดในรอบปีงบประมาณขณะนี้ และแกร็บคาดว่าจะได้รับทุนเพิ่มอีก 1 หมื่น 6 พันล้านบาท ทำให้มียอดระดมทุนรวมทั้งสิ้น 8 หมื่น 3 พันล้านบาท ที่กล่าวได้ว่าเป็นยอดเงินที่มากที่สุดในภูมิภาค ซึ่งจากข้อมูลแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับแกร็บระบุว่า หลังปิดการระดมทุนรอบนี้ จะทำให้แกร็บเงินมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท
ด้านบริษัทแกร็บ สำนักงานใหญ่ ที่ประเทศสิงคโปร์กล่าวว่า ภูมิิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในกลุ่มบริการแท็กซี่บุคคลที่สามมีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 95% ขณะที่บริการแท็กซี่ส่วนบุคคลมีจำนวน 71% โดยมีผู้ขับขี่ที่เป็นขับขี่ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล มอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ และบริการรถร่วมทั่วภูมิภาคเป็นจำนวน 1.1 ล้านคน
ด้านนายแอนโทนี่ ถัน หัวหน้าเจ้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ กล่าวในแถลงการณ์ว่า ด้วยการสนับสนุนของทั้งจีนและญี่ปุ่น จะทำให้แกร็บประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำบริการรถร่วมเดินทางในตลาดที่เอาชนะไม่ได้ และการสร้าง ‘แกร็บเพย์’ ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินทางเลือกในภูมิภาค
รายงานระบุว่า การสร้างเพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้บริการผ่านแอพที่ทะยานเพิ่มขึ้นและระบบแกร็บเพย์นี้ บริษัทแกร็บที่มีอายุ 5 ปี ตั้งเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่บริษัทบริการเทคโนโลยีให้กับผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงการให้สิินเชื่อ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์และเงินทุนตลาดด้วย โดยขณะนี้แกร็บได้ซื้อบริษัทคุโด ที่ให้บริการการชำระเงินสัญชาติอินโดนีเซียเมื่อต้นปีนี้ และแกร็บกำลังมุ่งซื้อกิจการเพิ่มเพื่อหนุนการเติบโตอย่างรวดเร็ว
“ความแตกต่างของระบบการธนาคาร คู่แข่งที่มีมากมายในแต่ละประเทศและกฎระเบียบหลายอย่างนับเป็นอุปสรรคขัดขวางความสำเร็จ” นายรูชาฟ โดชิ นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย คานาลิสต์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม การที่ไม่มีระบบการชำระเงินแบบเดียวยังสามารถทำงานได้ทั่วตลาดในภูมิภาคนี้ แกร็บยืนอยู่ในโอกาสดีที่จะสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยโมเดลธุรกิจรถร่วมเดินทางและจากนั้นขยายการชำระเงินไปยังธุรกิจเสริมอื่นๆได้อีก
ขณะที่ แหล่งข่าวอีกแห่งระบุว่า ในช่วงเดือนนี้ บริษัทเทนเซ็น โฮลดิ่ง ได้ลงทุนกับอูเบอร์ บริษัทรถร่วมเดินทางยักษ์ใหญ่ระดับโลก และโก-เจ๊ก รถร่วมเดินทางอีกแห่งของอินโดนีเซีย อีกราว 100 ล้านถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การระดมทุนครั้งนี้ของแกร็บ เกิดขึ้นในช่วงที่บริษัทอูเบอร์กำลังถูกรุมเร้าไปด้วยปัญหา ตั้งแต่เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงาน หน่วยงานกลางตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ช่วยคนขับหลบเลี่ยงตำรวจ และการฟ้องลิขสิทธิ์โดยเวย์โม่ บริษัทย่อยผู้พัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ของบริษัทอัลฟ่าเบ็ตในเครือของกูเกิล โดยคาดว่า อูเบอร์จะเพิ่มความสนใจในตลาดประเทศอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังต้องถอยจากจีนเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ มีผู้ร่วมลงทุนกับแกร็บอีกโดยก่อนหน้านี้คือ บริษทกองทุนจีน บริษัทเฮดฟันด์ โคตูล เมเนจเม้นท์ บริษัทกลุ่มทุน จีจีวี และเวอร์เท็กซ์ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเทมาเซ็กส์ โฮลดิ้งจากสิงคโปร์