วันที่ 23 กรกฎาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ระบุเรื่องไพรมารีโหวตจะไม่มีโทษยุบพรรค จะลงโทษแค่ปรับ จำคุกเล็กๆน้อยๆ และตัดสิทธิทางการเมืองว่า โดยหลักการกระบวนการไพรมารีโหวตต้องเริ่มต้นและมีพัฒนาการไม่ใช่อยู่ๆ มากำหนดว่าจะต้องทำไพรมารีโหวตยังงั้น ยังงี้ ทั้งนี้ระบบไพรมารีโหวตจะต้องพัฒนาการเมืองหรือให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันโดยประชาชนที่เป็นสมาชิกและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งในประเทศประชาธิปไตยและวงวิชาการรัฐศาสตร์ที่ไหนก็ชัดเจนว่าต้องค่อยๆ มีพัฒนาการ ดึงการมีส่วนร่วม องค์ประกอบที่จะทำให้ไพรมารีโหวตประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่อยู่ๆ มากำหนดว่าต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ ในพื้นฐานของระบบการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนไปกำหนดแบบนี้มีแต่จะไปสร้างให้เกิดความขัดแย้งและทำให้สถาบันพรรคการเมืองอ่อนแอ

“ไม่ใช่เรื่องจะมานั่งต่อรองว่าจะเอาโทษหรือไม่เอาโทษ และยิ่งมีเรื่องยุบพรรคเข้ามาก็แย่มากแน่ๆ ต้องคิดเรื่องไพรมารีโหวตบนพื้นฐานที่ว่าต้องการทำเพื่ออะไร เพื่อให้สถาบันพรรคการเมืองเข้มแข็งหรือต้องการจะสลายสถาบันพรรคการเมือง ถ้าเริ่มต้นจากอยากให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งต้องดูว่าอะไรที่จะเกื้อหนุนทำให้สถาบันพรรคการเมืองเข้มแข็ง ไม่ใช่ให้คนที่ไม่เคยรู้เรื่องกระบวนการเลือกตั้ง ไม่รู้อะไร เที่ยวมองมีสมมติฐานแล้วมานั่งกำหนดอะไรหลายๆ อย่าง ฉะนั้นหากจะทำเรื่องแบบนี้ต้องเริ่มนับหนึ่ง เพราะติดกระดุมเม็ดแรกผิด มันก็ผิดทั้งหมด ถ้าอยากมีกระบวนการ การมีส่วนร่วมจริงต้องถามว่ากระบวนการจะดึงคนมามีส่วนร่วมคิดแบบไหน อย่างไร และจะปล่อยให้มีพัฒนาที่เหมาะสมต่อเนื่องอย่างไร”นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวถึงแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยปฏิเสธลงนามรับร่างสัญญาประชาคม 10 ข้อของคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองว่า ตามแถลงการณ์ของพรรคที่แสดงออกก็ชัดเจนแล้ว และรายละเอียดเหล่านั้นเป็นจุดยืนและเป็นทิศทางของพรรคเพื่อไทยที่ชัดเจน