บิ๊กอสังหาฯ ชี้วัคซีนมาช้า-มีน้อย แนะเปิดเสรี จับตา ก.ย.นี้ จุดเปลี่ยนการเมือง ศก.

‘ศานิต’ บิ๊กอสังหาฯดัง ชี้วัคซีนมาช้า-มีน้อย แนะเปิดเสรี จับตา ก.ย.นี้ จุดเปลี่ยนการเมือง ศก. หนุนแนวคิด ‘แพทย์ชนบท’
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รอดูและประเมินสถานการณ์การลงทุนให้สอดรับกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีน อยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการฉีดให้ได้ตามเป้า

“ที่ผ่านมารัฐบาลออกมาช้าไป จากเดิมต้องจัดหาให้ได้ไม่เกินไตรมาสที่ 2 ตอนนี้หลุดไปไตรมาสที่ 4 และจัดหาในปริมาณที่น้อยไป ต้องเพิ่มทางเลือกมากขึ้น เปิดเสรีให้มีการนำเข้า ตอนนี้ยอดป่วย เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเยอะมาก เพราะวัคซีนไม่พอ และเป็นปัจจัยใหญ่”

นายศานิตกล่าวว่า เมื่อได้วัคซีนแล้วจะต้องระดมฉีดในพื้นที่สีแดงเข้มและควบคุมสูงสุด โดยเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑล มีอยู่ประมาณ 13-14 ล้านคน และเป็นย่านเศรษฐกิจหลัก ยังไม่รวมแรงงานที่เข้ามาทำงานก่อสร้างและประมง ตอนนี้การระบาดลุกลามเข้าไปในย่านโรงงาน มี จ.ชลบุรี ถ้าลามไปยังจ.ระยอง จะเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของประเทศรองจาก จ.สมุทรปราการ ถ้าหากมีการติดเชื้อจะกระทบกับความเชื่อมั่น

“เหตุการณ์ในขณะนี้จะคล้ายสงครามค่าเงินบาท เหมือนจะชนะแล้วแพ้ ย้อนรอยปี 2540 ถือว่าหนักกว่า เพราะครั้งนี้กระทบถึงตัวบุคคลไปถึงประชาชนรากหญ้า เมื่อปี 2540 กระทบแค่บริษัทใหญ่ เจ้าของธุรกิจ ผมมองว่ารอบนี้จะลำบากกว่าปี 2540 ผมว่ากระทบธุรกิจท่องเที่ยวขนาดหนัก ซึ่งธุรกิจท่องเที่ยวนำรายได้เข้าประเทศสร้างจีดีพี 20% ยิ่งถ้าติดเชื้อในโรงงานผลิต กระทบการส่งออก ต้องระมัดระวัง เพราะโรงงานอยู่ในพื้นที่อุตสาหกรรมเยอะ”

นายศานิตกล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องผลักดันเป็นอันดับแรกคือต้องนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนเร็วที่สุด และเข้าถึงได้ง่าย โดยจะออกเป็นพระราชกำหนดให้เอกชนนำเข้าเสรีก็ได้ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนหรือเครื่องมือต่างๆ และต้องเผด็จศึกในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลให้ได้ก่อน

“การสร้างโรงพยาบาลสนามเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ ต้องนำเข้าวัคซีนให้เร็วที่สุดภายในเดือนสิงหาคมและกันยายนนี้ ต้องวิ่งแข่งกับเวลา ต้องปิดให้ได้ในกันยายนนี้ ไม่ใช่ตุลาคม ซึ่งกันยายนจะเป็นจุดไคลแมกซ์ จุดเปลี่ยนในหลายเรื่อง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสาธารณสุข”

สำหรับมาตรการล็อกดาวน์ “บอสใหญ่พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค” กล่าวว่า การล็อกดาวน์ รัฐต้องคลายล็อกให้คนและธุรกิจที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มให้เปิดได้ เพราะถือว่ามีภูมิคุ้มกันในระดับหนึ่งแล้ว เช่น ธุรกิจร้านอาหาร ภาคบริการต่างๆ โดยเปิดแบบมีเงื่อนไข ไม่ใช่ล็อกดาวน์หมด

“การล็อกดาวน์ ถ้าประชาชนไม่ได้รับการฉีดวัคซีนก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าจะล็อกดาวน์ ต้องลุยตรวจเชิงรุกในชุมชน ตรวจเจอแล้วรักษา จะได้ผลมากกว่าล็อกดาวน์แบบเหวี่ยงแห ต้องทำเหมือนที่แพทย์ชนบททำถูกต้องแล้ว ตรวจเจอแล้วคอนโทรล ถ้าล็อกดาวน์อยู่กับที่ไม่ช่วยอะไร เพราะคนไม่มีที่ตรวจหาเชื้อ ไม่มีที่รักษา” นายศานิตกล่าวทิ้งท้าย