‘สุทิน’ แจง ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ แค่เห็นต่าง หลังเทงบ 65 เข้างบกลาง ยันไม่มีฮั้วรัฐบาล

“สุทิน” แจง “ก้าวไกล-เพื่อไทย” แค่เห็นต่าง หลังเทงบ 65 เข้างบกลาง ยันไม่มีฮั้วรัฐบาล ลั่นมีแต่เรื่องต้องต่อสู้กัน

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวความขัดแย้งระหว่างคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของพรรคพท.และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ว่า หากพิจารณาเนื้อความอย่างถ่องแท้แล้ว เป็นเรื่องของการมองต่างกันที่มองผลประโยชน์ของประชาชนด้วยกันทุกฝ่าย ซึ่งฝ่ายหนึ่งบอกว่าการสนองต่อผลประโยชน์ของประชาชนควรนำงบประมาณที่มีการปรับลดไปไว้ในงบกลาง แต่อีกฝ่ายก็คิดถึงประชาชนเหมือนกันว่าหากนำเงินดังกล่าวไปไว้ในงบกลางก็ไม่น่าจะดี จึงเสนอให้เอาไปไว้ที่อื่น ซึ่งเรามีเป้าหมายคือประชาชนเหมือนกันแต่เรามองต่างกัน

นายสุทินระบุว่า หากมองให้ดีจะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้เห็นด้วยกับรัฐบาลทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่พรรคต่อสู้และขัดแย้งกับฝ่ายรัฐบาลมามากเกือบ 90% มีการรบรากันเรื่องใหญ่ๆ เช่น งบประมาณกระทรวงกลาโหมที่ถือเป็นกล่องดวงใจของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็ฟาดฟันจนมองหน้ากันไม่ติด และยังมีอีกหลายประเด็นที่พรรคเพื่อไทยเห็นแย้งกับรัฐบาลมาตลอด ซึ่งตนก็เพิ่งเห็นเรื่องเดียวที่เห็นตรงกันคือเรื่องงบกลางนี้ ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคเพื่อไทยด้วยว่าเราไม่ได้มีจุดยืนที่จะไปให้ความร่วมมือหรือเห็นดีเห็นงามกับรัฐบาลในทุกเรื่อง อันไหนที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราก็ทำ แต่อันไหนที่คิดว่าไม่ใช่เราก็ต่อสู้และเชื่อว่าเราจะเข้าใจกัน พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะปัญหาและบรรยากาศแบบนี้เคยมีเกิดขึ้นมาเรื่อยที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน บางเรื่องเห็นต่างกันเราะจุดยืนและนโยบายเราต่างกัน แต่เรื่องไหนเห็นตรงกันเราก็ทำงานร่วมกันต่อไปได้ โดยเฉพาะเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องของทุกคน” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่าไม่ได้เป็นการปูทางเพื่อนำไปสู่การฮั้วกันในช่วงหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะไปฮั้วกันมีแต่เรื่องที่ต้องวางแผนต่อสู้แต่บังเอิญบางเรื่องก็มาตรงกัน ดังนั้นอย่าไปคิดแบบนั้น เช่น เรื่องระบบการเลือกตั้ง อย่าไปคิดว่าจะเป็นเรื่องที่ฮั้วกัน เพราะพรรคเพื่อไทยก็อยู่ของเราแบบนี้ แต่คนอื่นเขาไปคิดว่าสถานการณ์เปลี่ยนเขาก็เลยเปลี่ยนมาหาเรา รวมถึงเรื่องงบประมาณที่ถูกตัดแล้วกลับไปอยู่ในงบกลางเกิดขึ้นแบบนี้มาแล้วหลายปี หลังจากที่มีการบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้

ถามย้ำว่าแต่ช่วงหลังพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยเห็นตรงกันบ่อย นายสุทิน กล่าวว่า อาจจะด้วยความเป็นพรรคใหญ่ที่มีจุดยืนของตนเองและบังเอิญไปตรงกัน ยืนยันว่าไม่ได้มีเหตุผลอื่นถ้าจะให้ไปฮั้วกันหลังเลือกตั้งถือว่าเป็นเรื่องที่คิดไปไกลมาก