กรรมการ กสทช.ระบุ ข้อกำหนดฯฉบับที่ 29 คนออกคำสั่งน่าจะไม่รู้เรื่องเทคนิค ย้ำปิดไอพีไปไม่มีประโยชน์

กรรมการ กสทช. ระบุ ข้อกำหนดฯ ฉบับที่ 29 คนออกคำสั่งน่าจะไม่รู้เรื่องทางเทคนิค ย้ำปิดไอพีไปไม่มีประโยชน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 29) ใจความว่า มีการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จทำให้ประชาชนหวาดกลัว หรือข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดสับสน ปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง จนเกิดความเสียหายร้ายแรงมากขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯลฯ จึงมีมาตรการควบคุมสื่อ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป

นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของสำนักงาน กสทช.โดยตรง ไม่ต้องส่งเรื่องมาให้ทางคณะกรรมการ กสทช. อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานคงจะมีการรายงานให้คณะกรรมการทราบ ว่ามีแนวทางการดำเนินการอย่างไร แต่ตอนนี้ทางสำนักงานยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้ขึ้นมา

นพ.ประวิทย์กล่าวว่า การปิดกั้นที่อยู่ไอพี (IP address) ผู้ใช้งานไม่ได้รับผลกระทบ ยกเว้นทางผู้ให้บริการที่จะเสียที่อยู่ไอพีไป เพราะว่าที่อยู่ไอพีมีการเปลี่ยนตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยหลักการมีไว้สืบย้อนหลัง ว่าที่อยู่ไอพีในขณะที่มีการใช้งาน ณ เวลา วันที่ สถานที่ ใด ใช้เบอร์โทรศัพท์อะไรในการเข้าอินเตอร์เน็ต ถึงจะสามารถรู้ตัวเจ้าของได้ ไม่สามารถรู้ถึงที่อยู่ไอพีล่วงหน้าได้ จึงไม่ทราบว่าข้อกำหนดที่ออกมามีประโยชน์อะไร แต่ถ้าผู้ให้บริการไปปิดกั้นอย่างอื่น เช่น ซิมการ์ด เบอร์โทรศัพท์ อีมี่โทรศัพท์ ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะข้อกำหนดฯไม่ได้ระบุให้ทำแบบนั้น

สมมุติถ้ามีคนไปโพสต์ข้อความ เป็นการใช้ที่อยู่ไอพีอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งคนนั้นใช้งานบนไวไฟฟรีของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานรัฐนั้นจะปิดกั้นที่อยู่ไอพีของตัวเองหรือไม่ หรือต่อให้มีการปิดกั้นการใช้งานซิมโทรศัพท์นี้ คนทั่วไปก็สามารถไปซื้อซิมโทรศัพท์มาใช้ใหม่ได้ ในการปิดกั้นจึงไม่สามารถช่วยหยุดยั้งการกระทำความผิดได้ ถ้ามีการกระทำความผิดตามกฎหมาย ก็ดำเนินตามทางกฎหมายได้ อย่างการยึดสิ่งที่ใช้ในการกระทำความผิดมาเป็นของกลาง แต่จะมาบอกว่าให้คนนั้นห้ามใช้อินเตอร์เน็ต ห้ามใช้โทรศัพท์ น่าจะเป็นคำสั่งที่เกินกฎหมายบัญญัติมาก่อน

“เข้าใจว่าคนออกคำสั่งไม่น่าจะรู้เรื่องรายละเอียดทางเทคนิค ที่อยู่ไอพีไม่ได้เหมือนกับเลขที่บ้าน ที่เป็นของใครคนนั้นอย่างถาวร ที่อยู่ไอพีมันเปลี่ยนไปตลอด เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการให้เรายืมใช้ และก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วแต่ผู้ให้บริการ จะปิดกั้นที่อยู่ไอพีไปเพื่ออะไร ในเมื่อมันไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย” นพ.ประวิทย์กล่าวปิดท้าย