อย่ามีทุจริต! “อรุณี” ชวนจับตาโควต้าวัคซีนบริจาค ลั่นทุกโดสต้องถึงมือบุคลากรด่านหน้า-ปชช.

โฆษกเพื่อไทยชวนจับตาการบริหารโควต้าวัคซีนบริจาค ชี้ทุกโดสต้องถึงมือบุคลากรด่านหน้า-ประชาชน อย่าปล่อยให้เกิดการโกงซ้ำโกงซ้อน

วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 2.5 ล้านโดส อังกฤษเตรียมบริจาควัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 415,000 โดส รวมถึงสวิสเซอร์แลนด์ที่ได้บริจาคเครื่องช่วยหายใจและชุดตรวจโควิดให้ประเทศไทยว่า ถือเป็นความโชคดีของคนไทยที่จะได้รับอานิสงส์ความห่วงใยของต่างประเทศซึ่งมองเห็นว่าชีวิตพี่น้องประชาชนกำลังตกทุกข์ได้ยาก จากสภาพของคนไทยที่เสียชีวิตข้างถนน คนตายคาบ้าน ไปจนถึงภาพประชาชนเบียดเสียดกันอย่างแออัดเพื่อเข้าถึงการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นภาพข่าวที่เผยแพร่ไปทั่วโลก อย่างไรก็ดีต้องขอขอบคุณการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนที่เรียกร้องให้นานาประเทศทั่วโลกหันมามองไทยและยอมทำทุกทางในการเร่ขอรับบริจาควัคซีนที่ยังเหลือใช้หรือใกล้หมดอายุมาให้พี่น้องคนไทย ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มคนที่กล้าหาญ มีจิตใจที่เห็นแก่ชีวิตมนุษย์ มากกว่าผู้บริหารประเทศที่ถือตัวอวดเก่ง ซ้ำยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยาวนานได้เลย

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วัคซีนและสิ่งของที่ได้รับการบริจาคมาทั้งหมด ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องบริหารจัดการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ต้องมีเอกสารแสดงจำนวนตั้งแต่การรับเข้าและนำส่งออกไปหน่วยงานต่างๆ อย่างชัดเจนและต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างตรงไปตรงมา ของทุกชิ้นต้องถึงมือประชาชน บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงก่อน นอกจากนี้ยังเสนอให้ประชาชนร่วมกันจับตาการบริหารจัดการวัคซีนและสิ่งของที่รัฐบาลได้รับบริจาคมาทั้งหมด โดยเฉพาะ

1.การจัดสรรการใช้วัคซีนไฟเซอร์ในล็อตแรก 1.54 ล้านโดส ที่เดินทางถึงไทยในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ค.64) จะต้องจัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์มากที่สุด รองลงมาคือประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ รวมถึงเพื่อการวิจัยและกลุ่มเด็กนักเรียน

2.เมื่อได้รับวัคซีนมาแล้ว รัฐบาลจะต้องบริหารจัดการงบประมาณการจัดซื้อวัคซีนใหม่หรือไม่ เนื่องจากมูลค่าของวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาคมา 2.5 ล้านโดส มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,600 ล้านบาท วัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 415,000 โดส รวมมูลค่า 62.25 ล้านบาท รัฐบาลสวิสเซอร์แลนด์บริจาคเครื่องช่วยหายใจและชุดตรวจโควิด (ATK) รวมมูลค่า 9.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 313.6 ล้านบาท รวมแล้วเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,977 ล้านบาท ซึ่งต้องนำมูลค่าทั้งหมดไปลดทอนกับงบประมาณในวงเงินที่จะขอกู้มาหรือไม่

“อยากจะฝากไปถึงพลเอกประยุทธ์ และพวกพ้องว่า ของบริจาคที่ได้มาทุกชิ้นต้องถึงมือประชาชน ไม่ใช่เครือข่ายพวกพ้องหรือวีไอพี ตอนนี้เราประคองสถานการณ์ด้วยวัคซีนบริจาคไปก่อน แต่รัฐต้องกลับไปจัดการวัคซีนที่สั่งซื้อมาด้วยว่ากำหนดการส่งมอบเป็นอย่างไร อย่าปล่อยปละละเลยให้ใครมาหากินบนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน อย่าให้เกิดการโกงซ้ำโกงซ้อน อายต่างประเทศเขา ” นางสาวอรุณีกล่าว