นายกฯ ประชุมแก้ปัญหาโควิด เร่งตั้ง รพ.สนาม เพิ่มบุคลากรแพทย์ จัดระบบส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา เผยปีนี้มีวัคซีนเข้ามาอีก 80 ล้านโดส ลั่นเพียงพอให้บริการประชาชน

วันที่ 27 ก.ค. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ย้ำในที่ประชุม ครม.ว่า ให้ความสำคัญกับทุกส่วนในการดำเนินงานในการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งการจัดสรรบุคลากรจัดสถานที่พักคอย จัดโรงพยาบาลสนาม และให้คณะแพทย์พยาบาลเข้ามาเพิ่มเติม รวมไปถึงการส่งผู้ป่วยกลับยังภูมิลำเนา ซึ่งได้ประชุมไปในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังให้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปยังหน่วยงาน ทั้งกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ปรับสโมสรต่างๆ มาเป็นโรงพยาบาลสนาม จากนั้นให้เพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามที่มีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่ดูแลผู้ป่วยสีเขียว จะให้ปรับเพื่อรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง

นายอนุชา กล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ได้สั่งให้มอบแนวทางให้ประชาชนได้ทราบถึงข้อชัดเจนในการปฏิบัติตน หากต้องดูแลรักษาตัวเองที่บ้านหรือการทำ Home isolation โดยหากไม่สามารถดูแลตนเองที่บ้านเนื่องด้วยปัญหาอุปสรรคต่างๆ ก็ให้กักตัวภายใน Community isolation เพื่อลดการแพร่ระบาดในครอบครัว และในชุมชน

นายอนุชา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ อาสาสมัครต่างๆ และเจ้าหน้าที่ในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่ ช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และจะส่งยาฟ้าทะลายโจรหรือฟาวิพิราเวียร์ และการดูแลอาหารการกินให้กับผู้ป่วย รวมถึงการให้ผู้ป่วยสามารถรักษาตัวที่ภูมิลำเนาได้ ตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่กำกับไว้ในเรื่องของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เพื่อลดปัญหาการเข้ารับการรักษาในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องเตียงและบุคลากรทางการแพทย์

ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อที่มีความประสงค์กลับภูมิลำเนาโดยในปัจจุบันมีการจัดขบวนรถไฟ ในการจัดส่งผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อกลับไปรักษาตัวในจังหวัด 7 จังหวัด โดยขบวนรถไฟเป็นระบบปิด โดยเมื่อถึงสถานีปลายทางจะมีรถพยาบาล มารับผู้ป่วยต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม

นายอนุชา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะมีการสนับสนุนทีมปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาโควิด-19 เชิงรุก หรือ CCRT ซึ่งเป็นหน่วยเคลื่อนที่ไปยัง 50 เขตภายในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจคัดกรองเชิงลูกค้าผู้ติดเชื้อในชุมชน และจะสามารถช่วยยับยั้งการติดเชื้อ ขณะที่การรับเรื่องผู้ป่วยผ่านทางสายด่วนต่างๆ นายกรัฐมนตรีมีมาตรการให้ไปปรับปรุง เพื่อให้ความสะดวกทั้งผู้ติดเชื้อและญาติ เพื่อเข้ารับการรักษา รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จะต้องโทรเข้ามาในสายด่วนต่างๆ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้ดำเนินการให้สามารถติดต่อสายด่วนต่างๆ ได้ฟรี

โฆษกรัฐบาล ยังกล่าวถึงมาตรการในการกระจายวัคซีนว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการจัดหาวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำนวนวัคซีนที่จะเข้ามาในประเทศไทย มีการรายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้า โดยจะมีการดำเนินการเข้ามาที่เพียงพอกับการให้บริการประชาชน ในเบื้องต้นจากนี้ไปจะมีวัคซีนมาอีก 80 ล้านโดส ในปี 2564 หากรวมกับวัคซีนที่เข้ามาแล้ว 30 ล้านโดส จะทำให้มีวัคซีนที่เข้ามาภายในสิ้นปี 2564 จำนวน 110 ล้านโดส โดยจำนวน 20 ล้านโดส จะเป็นวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ นอกเหนือจากนั้นจะเป็นวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติมเข้ามา ทั้งโมเดอร์นา และซิโนฟาร์ม