| ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
วันที่ 24 ก.ค. เอพี รายงานว่า ทางการมณฑลยูนนานมีคำสั่งล็อกดาวน์เขตเจียงเฉิง พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครผู่เอ๋อ ซึ่งมีพรมแดนติดกับเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมบังคับพลเมืองทุกคนเข้ารับการตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19
หลังปริมาณผู้ติดเชื้อรายวันในมณฑลยูนนานมีแนวโน้มสูงขึ้น คาดว่าเป็นเชื้อชนิดกลายพันธุ์เดลตา (พบครั้งแรกในอินเดีย) ซึ่งลุกลามเข้ามาจากพม่า เนื่องจากมณฑลยูนนานมีพรมแดนทางใต้ติดกับพม่า โดยผู้ติดเชื้อใหม่ 5 คน ที่พบนั้นยอมรับว่า เพิ่งเดินทางกลับมาจากพม่า ซึ่งกำลังเผชิญกับสภาวะสงครามกลางเมือง และการระบาดของโควิด-19 ชนิดเดลตา ท่ามกลางความล่มสลายของระบบสาธารณสุขหลังกองทัพพม่ายึดอำนาจเมื่อ 1 ก.พ.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นวันเดียวกับคำสั่งล็อกดาวน์กรุงฮานอยของเวียดนามเป็นเวลา 15 วัน เพื่อสกัดกั้นการลุกลามของโควิด-19 ชนิดเดลตาในภูมิภาคดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ส่งผลให้ห้ามการมั่วสุมมากกว่า 2 คนขึ้นไปในที่สาธารณะ โดยจะอนุญาตให้เฉพาะหน่วยงานรัฐ โรงพยาบาล และระบบขนส่งมวลชนที่จำเป็นเปิดให้บริการ
สถานการณ์ข้างต้นเกิดขึ้นหลังทางการเวียดนามพบผู้ติดเชื้อใหม่ 7,295 คน ในจำนวนนี้ 70 คน มีภูมิลำเนาในกรุงฮานอย นับเป็นสถิติการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดของเวียดนาม แต่ส่วนใหญ่กว่า 5 พันคน มีภูมิลำเนาในนครโฮจิมินห์ ซึ่งขยายเวลาล็อกดาวน์ไปจนถึง 1 ส.ค.นี้
ม็อบออสซี่เดือดไม่เอาล็อกดาวน์
วันเดียวกัน รอยเตอร์รายงานว่า โควิด-19 ชนิดเดลตากำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในทวีปเอเชีย ส่งผลให้หลายชาติทยอยใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นการระบาด แต่มาตรการดังกล่าวส่งผลให้เกิดความเดือดดาลของประชาชนด้วย
เช่น ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งขยายมาตรการล็อกดาวน์ไปถึงสิ้นเดือนก.ค. หลังใช้มานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว เผชิญกับการลุกฮือประท้วงของประชาชนหลายพันคน หลายคนตะโกนว่า “เสรีภาพ” จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
ด้านความคืบหน้าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ล่าช้าของออสเตรเลีย ล่าสุด นครซิดนีย์จะได้รับวัคซันป้องกันโรคโควิด-19 จากบริษัทไฟเซอร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกจำนวน 5 หมื่นโดส
หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่ 176 คน เป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันเข้าสู่วันที่สามของซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์ที่นครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย รวมประชากรที่ต้องถูกล็อกดาวน์คิดเป็นเกือบครึ่งประเทศแล้ว
