“จาตุรนต์” ขอถามตรงๆ รัฐบาลจะคุมโควิดได้ยังไง ถ้าไม่เร่งตรวจ-ไม่รีบแยกผู้ติดเชื้อ WHO ย้ำมาแล้ว

วันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะตัวเลขการติดเชื้อที่แจ้งโดยรัฐบาลกับการตรวจจริงซึ่งยังไม่ครอบคลุม ทำให้มีตัวเลขตกสำรวจที่ถูกไม่นับรวมเข้าไปด้วย จนทำให้ไม่สามารถประเมินสถานการณ์ที่แท้จริงได้ว่า

ไม่เร่งตรวจเชื้อ ไม่รีบแยกผู้ติดเชื้อ รัฐบาลไม่มีทางควบคุมโควิดได้

การติดเชื้อในบ้านกำลังเป็นที่มาอันดับหนึ่งของการติดเชื้อไปแล้ว การล็อกดาวน์ที่เน้นให้คนอยู่ในบ้านโดยไม่แยกผู้ติดเชื้อออกมาไว้ข้างนอกกลับกำลังทำให้เกิดการแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น เมื่อพบว่าติดเชื้อแล้วไม่มีที่รองรับก็ต้องอยู่บ้าน จากที่ติดเชื้อคนเดียว ก็เลยติดทั้งบ้าน

ถ้าไม่รีบแก้ไขปัญหานี้ การล็อกดาวน์ก็ไม่อาจช่วยให้ควบคุมการแพร่ระบาดได้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ป่วยหนักและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีกมาก

ประเทศไทยตรวจหาผู้ติดเชื้อน้อยมากเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ ไม่ว่าประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากหรือมีผู้ติดเชื้อน้อย ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดลดจำนวนผู้เสียชีวิตจนเหลือน้อยมาก อาศัยวัคซีนและการตรวจจำนวนมาก ตรวจเพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกมาจากผู้ไม่ติดเชื้อ จะได้ไม่แพร่เชื้อ ผู้ติดเชื้อก็ได้รับการดูแลทันท่วงที ทำให้ป่วยน้อยและเสียชีวิตน้อย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดของไทยทำนิวไฮอยู่แทบทุกวันจนน่าเป็นห่วง แต่ถ้ามีการตรวจจริงจังเหมือนที่ประเทศอื่นเขาทำกัน ตัวเลขอาจจะมากกว่านี้อีกเป็น 2-3 เท่าเป็นอย่างน้อย

การที่รัฐบาลไม่เร่งให้มีการตรวจเชื้อให้มากๆ แล้วคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อแต่ละวันให้ทรงๆ ไปแบบนี้ เป็นนโยบายที่ผิดอย่างร้ายแรง

ยิ่งตรวจน้อยก็ยิ่งเท่ากับปล่อยให้การแพร่ระบาดรุนแรงขึ้น จะทำให้ผู้ป่วยยิ่งล้นระบบสาธารณสุขและจำนวนผู้เสียชีวิตจะยิ่งสูงขึ้น

WHO ย้ำความสำคัญของการตรวจมานานแล้ว หลายประเทศก็ทำมานานแล้วและประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาด แม้ตอนนี้ในหลายประเทศมีการเสียชีวิตน้อยมากแล้วเขาก็ยังตรวจมากกว่าไทยหลายเท่า แพทย์และผู้เชี่ยวชาญของไทยหลายคนก็เสนอให้ตรวจมากๆ มาตลอด แต่ผู้บริหารในระบบสาธารณสุขและผู้บริหารประเทศของไทยไม่ยอมรับฟังและยังดื้อรั้นดำเนินนโยบายที่ผิดมาตลอด

แม้วันนี้จะเริ่มยอมให้นำเข้าเและใช้ rapid antigen test แล้ว แต่ก็ยังปล่อยให้ระเบียบราชการและการทำงานที่อืดอาดทำให้การดำเนินการเรื่องนี้ล่าช้าอย่างมาก

หาก Rapid test ทำได้ช้ามากแบบนี้ การตรวจมากๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

หรือการตรวจ การนำเข้า Rapid test kit จะมีปัญหาอย่างเดียวกันกับเรื่องวัคซีน คือ การมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง

ถามกันตรงๆอย่างนี้แหละครับ