กระแสตีกลับแรง! “ชัยวุฒิ” เปลี่ยนท่าทีอย่างไว ‘ดารา-คนดัง’ คอลเอาท์ ยังไม่เข้าข่ายผิด

จากกรณีที่ รมว.ดีอีเอส “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” เตือนเหล่าดารา และ นักแสดง รวมถึงเหล่าคนดัง อย่าใช้โซเชียลมีเดียโจมตีรัฐบาล ถือสร้างเฟคนิวส์ มีความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ฯ

ล่าสุด นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ได้โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “ฝากไปยังดารานักแสดงทุกคน ท่านเป็นที่รักของประชาชน ท่านพูดแล้วประชาชนเชื่อ พวกเราก็มาช่วยกันคลี่คลายสถานการณ์โควิดให้เร็วที่สุด เราจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือและกำลังใจซึ่งกันและกัน เราต้องร่วมแรงร่วมใจสู้ภัยโควิด บนพื้นฐานความปลอดภัย และ ความรับผิดชอบต่อสังคม มาช่วยกันนะครับ

โดยโพสต์ยังระบุว่า “เท่าที่ได้ดูการ call out ออกมาเรียกร้องต่างๆของดารายังไม่เข้าข่ายความผิด เป็นการเรียกร้องถึงปัญหาความไม่พอใจต่างๆที่มีต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาของโควิด เราก็เข้าใจ เพราะวันนี้ไม่ใช่แค่ดารา ทุกกลุ่มทุกอาชีพก็ได้รับความเดือดร้อนกันหมด จึงมีการแสดงความคิดเห็นในเชิงที่ไม่พอใจ รัฐบาลก็เข้าใจ

เพียงแต่ผมมองว่าดารานักแสดงนักร้องเขาเป็น influencer เป็นคนสาธารณะ เป็นคนที่พี่น้องประชาชนรักและศรัทธา เมื่อพูดอะไรในสิ่งที่ไม่ครบถ้วน ประชาชนเชื่อไปแล้วเราก็แก้ไขยาก จึงต้องให้ความเป็นธรรมกับอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ต้องให้ข้อมูลที่รอบด้านเพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นความจริงจากทั้งสองฝ่าย

ยืนยันว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ขอให้เป็นความคิดเห็นที่บริสุทธิ์ และถ้าเป็นความเดือดร้อนของประชาชน หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร รัฐบาลก็รับฟัง และที่ผ่านมารัฐบาลก็ปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องโควิด ได้ปรับตามสถานการณ์ และตามข้อเรียกร้องของประชาชนมาตลอด”

ท่าทีล่าสุดของนายชัยวุฒิ ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อการดำเนินคดีกับคนดังในวงการบันเทิงที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาล ทั้งๆที่ เมื่อวานนี้ นายชัยวุฒิ ได้ออกมาปราบดารา-นักแสดงที่ต่างแสดงความคิดเห็นบนโลกโซเชียลว่า ขอความกรุณาสำหรับกลุ่มดารา นักแสดง รวมถึง อินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรักและศรัทธา อย่าใช้โซเชียลมีเดียเคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล เพราะสิ่งที่ทำเป็นการบิดเบือนข้อมูล เป็นการสร้างเฟคนิวส์ขึ้นในระบบโซเชียลมีเดีย

“ท่านพูดแต่ว่าทุกวันนี้มีคนตายเป็นจำนวนมาก เพราะโควิด เนื่องจากวัคซีนไม่ดีเป็นความผิดของรัฐบาล แล้วมันจริงหรือไม่ ขอให้อย่ามองเพียงด้านเดียว ต้องนึกถึงสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมาได้จัดหาวัคซีนมาอย่างดีตามมาตรฐาน เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในตอนนี้ ปัจจุบันหากมองภาพรวมในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทย ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นอันดับ 2 ซึ่งช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนได้ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่เพื่อให้สถานการณ์การระบาดโควิดคลี่คลายให้เร็วที่สุด จึงจำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับภัยโควิด บนพื้นฐานความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคมในสถานการณ์นี้” รมว.ดีอีเอส กล่าวเมื่อวานนี้