ตรวจจุดเดียวพบติดเชื้อครึ่งพัน ‘ณัฐชา’ สะท้อนใจไร้หน่วยงานดูแล อ้างกลัวข้ามหน้ากัน ร่วมถกทีมกรุงเทพ ‘ปาล์ม นิธิภัทร’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เเนะใช้เทคโนโลยีแก้วิกฤต เสนอสร้างเเพลตฟอร์มรวม home isolation ให้ เเกรบวิน ส่งอาหาร – ยา ถึงผู้ป่วย

เมื่อวันที่21 กรกฎาคม 2564 ณัฐชา บุญไชยอินทสวัสดิ์ ส.ส.กทม.เขต 25 บางขุนเทียน ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ก้าวไกลทูเดย์’ ในรายการ ‘ก้าวไกล เฉพาะกิจ เกาะติดโควิด 19’ พร้อมด้วย แรมโบ้ – กัณตณ ดวงอัมพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตดินแดง เเละ ปาล์ม- นิธิกร บุญยกุลเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางบอน เพื่อสะท้อนปัญหาสถานการณ์การเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมเสนอแนะเเนวทางในแก้ไข
.
ณัฐชา กล่าวว่า ในเขตบางขุนเทียน เฉพาะวันที่ 21 ก.ค.64 ทีมแพทย์ชนบทร่วมกับ สปสช. มีการตั้งจุดตรวจในพื้นที่กว่า 2,300 กว่าคน พบผู้ติดเชื้อมากถึง 553 คน ปัญหาก็คือไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปดูแล โยนกันไปมาอ้างว่าเป็นพื้นที่นี้หน่วยนั้นดูแล พื้นที่นั้นหน่วยนี้ดูแลกลัวจะข้ามหน้ากัน แต่นี่คือสถานการณ์วิกฤตจะมัวมายึดติดการทำงานแบบระบบราชการไม่ได้ หากมีกรอบก็ต้องทลายไม่อย่างนั้นจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปทำไม หากยังใช้ระบบปกติในการแก้ปัญหาเร่งด่วนที่มีความเป็นความตายของพี่น้องประชาชนแขวนอยู่บนเส้นด้ายแบบนี้
.
“พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องให้คำตอบกับประชาชนในเรื่องต่างๆ ปัญหาการจัดหาเตียงเเละโรงพยาบาลที่ขาดแคลน รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือปล่อยปละละเลย ที่ทราบมาคือ โรงพยาบาลหลายที่จงใจรับเฉพะผู้ป่วยสีเขียว เเต่ปฏิเสธไม่รับสีส้มเเละสีเเดง เนื่องจากมีค่ารักษาสูง ประชาชนคนไทยกำลังเผชิญวิบากกรรมตอนนี้ เขาไม่ได้ผิดอะไร เเต่เขาต้องมาทนอยู่ในการบริหารงานของ พลเอกประยุทธ์ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะมีการรอตรวจ รอติด รอตาย ไม่รู้ชะตากรรมว่าวันพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น การรอผลยังต้องใช้เวลากว่า 3- 5 วัน เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้อัตราผู้เสียชีวิตสูงขึ้นก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข และสถานการณ์ครั้งนี้คือสถานการณ์สงครามเชื้อโรค บุคคลที่เป็นนักรบด่านหน้าที่เเท้จริงคือ บุคลากรทางการเเพทย์ ที่จะต้องได้รับวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพเเละอุปกรณ์ทางการเเพทย์อย่างครบครัน ทันสมัย เพื่อพร้อมต่อสู้เเละรักษาบริการพี่น้องประชาชน แต่แค่เฉพาะเรื่องนี้รัฐบาลก็ยังให้คำตอบที่ชัดเจนเพื่อสร้างความอุ่นใจให้พวกเขาไม่ได้เลย”
.
ด้าน กัณตภณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตดินแดง กล่าวว่า จากการปฏิบัติงานในพื้นที่จริง ตนและทีมงานได้รับสายโทรศัพท์จากประชาชนตลอด 24 ชม. เพื่อขอความช่วยเหลือในการประสานหาเตียง เเละการขอเข้าสู่ระบบ home isolation ในการรักษา อย่างไรก็ตาม ยังคงพบเคสขั้นวิกฤตในพื้นที่หลายกรณี หนึ่งในกรณีที่สะเทือนใจมากคือ ลูกชายติดโควิดร่วมคุณแม่ ต้องใช้ออกซิเจนร่วมกัน และยังต้องรอยืนยันผลตรวจจึงจะได้เข้ารับการรักษา เขาโพสรูปภาพเเละอาการว่าคุณแม่อาการไม่ไหวเเล้ว น้ำลายฟูมปาก เมื่อประสานไปยังหน่วยงานก็ไม่มีใครเข้าดูเเลหรือรับรักษา จนอาการเข้าขั้นวิกฤตจึงมีรถจากศูนย์นเรนทรมารับไปโรงพยาบาลราชวิถีเเละเสียชีวิตในเวลาต่อมา
.
“การจัดการวิกฤติครั้งนี้ในเรื่องระบบการหาเตียง รัฐควรจะมีฐานข้อมูลกลางเพื่อไม่ให้เสียเวลา เเละสามารถกระจายการหาเตียงได้อย่างรวดเร็ว เราอยู่ในภาวะสงครามเชื้อโรค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนควรจะบูรณาการมากขึ้นกว่านี้ อย่าทำงานเเบบเช้าชามเย็นชาม ควรจะเพิ่มทุกคู่สายตามปริมาณของยอดผู้ติดเชื้อจนกว่าปริมาณจะลดลง จะเป็นการแก้ไขปัญหาเเละลดอัตราการเสียชีวิตให้น้อยลง ในเรื่องของยาฟาวิพิราเวียร์ ควรจ่ายยาสำหรับผู้ป่วยได้ภายใต้ดุลพินิจของแพทย์ตั้งเเต่ขั้นสีเขียว โดยไม่จำเป็นต้องรอผลตรวจแบบ RT PCR ยืนยันการติดเชื้อ เพื่อเป็นการควบคุมโรคเเละยับยั้ง บรรเทาอาการของโรคโควิดที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการหาเตียงแม้จะโรงพยาบาลจะตรวจเชิงรุกจนพบเชื้อแต่ก็ยังต้องให้รอผลแล็บจึงจะมีเตียงรับรักษาและนำไปเบิกค่าใช้จ่ายกับ สปสช.ได้ ซึ่งกว่าผลจะออกก็ใช้เวลานาน การกระทำเช่นนี้จึงไร้สามัญสำนึกเเละอำมหิตต่อประชาชน เหตุใดจึงไม่มีหน่วยงานใดมาควบคุมโรงพยาบาล ปล่อยให้หากินบนนาทีเป็นนาทีตายของประชาชน มีหลายกรณีที่ต้องตาย เพราะเหตุการณ์เช่นนี้”
.
ขณะที่ นิธิกร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางบอน กล่าวว่า ไม่เคยคิดว่าภาพของกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยจะมาถึงจุดนี้ หากการบริหารจัดการของรัฐยังล้มเหลวเช่นนี้ คิดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ขั้นวิกฤตยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ การเกิดโรคระบาดเเย่อยู่เเล้ว เเต่การเกิดโรคระบาดในตอนที่ประชาชนไร้ทุนทรัพย์ ในตอนที่ปากท้อง เศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนย่ำเเย่มันจึงแย่ยิ่งกว่า กรณีที่พบระหว่างลงพื้นที่ มีชายคนหนึ่งประสานมาขอรถมาบอกว่าจะนไไปส่งคุณแม่ ตอนแรกคิดเพียงว่าจะนำไปส่ง รพ.เพื่อรักษา เเต่สุดท้ายคือ คุณแม่ของน้องเขาเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่มีรถไปส่ง จึงได้ประสานหารถขนศพผู้เสียชีวิตจากบ้านไปยังวัดบางประทุนนอก หากไม่ได้รับสายนี้ คงเสียใจไปตลอดชีวิต เพราะเหตุการณ์มันรวดเร็วมากและสะท้อนให้เห็นถึงระบบสาธารณสุขเเละการบริหารจัดการของภาครัฐที่ล้มเหลวอย่างยิ่ง
.
“ในการแก้ไขวิกฤติเราสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ได้ ตอนนี้มีการทำ home isolation อยู่เต็มทั่วไปหมด หากเรารวมรวบ home isolation เหล่านี้แล้วสร้างแพลฟอร์มหรือสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาเชื่อมต่อกับเเพลตฟอร์มของมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือแกรบวินต่างๆ ก็จะสามารถจัดส่งยาสำหรับรักษา และส่งอาหารให้ผู้ป่วยได้ตามจุดที่ระบุในแอป และเราควรสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้ประชาชนเช็คข้อมูลได้ว่าจุดตรวจมีอยู่ที่ไหนได้บ้าง และตรวจแบบใด Antigen test หรือ RT PCR เพื่อให้สะดวกต่อการเข้าถึงของประชาชน รวดเร็วและไม่สับสน เวลานี้สิ่งเราควรทำคือการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อแก้ไขวิกฤติที่เกิดขึ้นเเละร่นระยะเวลาในการจัดการเรื่องต่างๆให้เร็วและเป็นระบบขึ้นได้”

นิธิกร ยืนยันว่า หากวันนี้มีการบริหารจัดการที่ดีเทคโนโลยีต่างๆจะถูกนำมาใช้และจะช่วยแก้ไขวิกฤตได้แน่นอน เพราะขณะนี้เราอยู่ในปี 2021 เรามีอินเตอร์เนตที่เร็วและมีเทคโนโลยีมีพลังมาก ซึ่งสามารถยืนยันได้จากกรณีที่ตนเเละทีมงานได้นำเเพลตฟอร์มเเสดงพื้นที่เสี่ยง 5-10 กิโลเมตรที่ใกล้จุดเกิดเหตุไฟไหม้ที่โรงงานหมิงตี้ ย่านกิ่งแก้ว เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเช็คพิกัดตนเองได้ ซึ่งก็สามารถช่วยเหลือประชาชนได้จริงท่ามกลางความสับสน ดังนั้น สิ่งเหล่านี้ก็ควรจะทำได้ในการแก้ไขวิกฤติโควิดปัจจุบันเช่นกัน