ร้านอาหาร ฝาก 7 ข้อถึง “ประยุทธ์-ศบค.” งงคำสั่งล่าสุด โอดเป็นเด็กดีมาตลอดแม้โดนจนบอบช้ำ

งง สั่งปิดร้านอาหารในห้าง ออก จ.ม.เปิดผนึกถึง ‘ประยุทธ์’ พร้อม 7 ข้อเสนอ ชี้เป็นเด็กดีมาตลอด แม้มาตรการทำบอบช้ำมาก

จากกรณีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 28) ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ขยายพื้นที่สถานการณ์กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม เป็น 13 จังหวัด

ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี สงขลา นราธิวาส ปัตตานี และยะลา

เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ เพื่อควบคุมสถานการณ์โควิด-19

ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเปิดได้เพียงซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา ส่งผลให้ร้านอาหารที่อยู่ในห้างสรรพาสินค้าต้องปิดทั้งหมด และไม่สามารถเปิดให้บริการซื้อกลับบ้าน หรือดิลิเวอรีได้

ล่าสุด วันนี้ (21 กรกฎาคม) เพื่อนแท้ร้านอาหาร จดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ศบค. เสนอมาตรการเปิดร้านอาหารในห้าง ระบุว่า กราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี ด้วยเชื่อว่าท่านและคณะทำงาน ศบค.มีหลายเรื่อง หลายปัญหาใหญ่ๆ ให้ต้องพิจารณาแก้ไขจนอาจทำให้การตัดสินใจออกมาตรการบางอย่างถูกข้ามในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นรายละเอียดที่ส่งผลลัพธ์ สร้างความเสียหายต่อประชาชน ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมตามมาอย่างมาก

ดังกรณีคำสั่งในประกาศฉบับที่ 28 ปิดร้านอาหารในห้าง ซึ่งสร้างความงงงวยให้กับผู้ประกอบการและสาธารณชนอย่างมากว่าปิดเพื่อ! ปิดแล้วมันช่วยให้การระบาดดีขึ้นจริงเหรอ ในเมื่อคนยังแออัดในซุปเปอร์ฯ มากกว่าการรอสั่งอาหารกลับบ้าน แต่ก็เชื่อว่าท่านคงได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือ จากคณะแพทย์ใน ศบค.จนนำมาสู่คำสั่งดังกล่าว (หากไม่ใช่การพิมพ์ตกหล่นไป)

แต่คำสั่งดังกล่าว มีผลให้เกิดการตกงานทันทีของพนักงานหลายพันชีวิต ลำพังเงินเยียวยา เงินทดแทนที่ได้จากประกันสังคม ไม่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายของพวกเขา ซึ่งจะยื่นเรื่องขอก็ลำบาก ระบบล่มซ้ำซาก จะสอบถามข้อมูลจากข้าราชการก็ยากเย็น แถมบางเขตข้าราชการดุด่าใส่ประชาชนไม่พยายามจะช่วยเหลือ

ยังรวมถึงผลประกอบการของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งนี้โดยไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งล้วนแต่เป็นแบรนด์ใหญ่ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูง ย่อมส่งผลตรงต่อ GDP ประเทศตามมา สต๊อกวัตถุดิบที่ระบายออกไม่ทันสร้างความสูญเสียต่อเงินทุน ยอดขายที่หายไปทันที โดยไร้มาตรการเยียวยารองรับ ซึ่งผู้ประกอบเหล่านี้ต่างบอบช้ำสะสมมาจากมาตรการควบคุมของรัฐอย่างต่อเนื่อง

ที่หนักกว่านั้น บรรดาผู้ประกอบการแต่ละแบรนด์เขาห่วงใยพนักงาน เขาต้องหาวิถีทางดิ้นสู้เพื่อรอด ต่างก็ต้องพากันหาสถานที่นอกห้าง เพื่อให้สามารถทำอาหารขายได้ต่อ ซึ่งล้วนแต่เป็นต้นทุนผลิตที่เพิ่มขึ้น หากผู้ประกอบการเหล่านี้ โดยเฉพาะแบรนด์ระดับ SME ต้องเจ๊งไป การชดเชยเยียวยาใดๆ ก็ไม่อาจเพียงพอ

ยังไม่นับถึงซัพพลายเชนต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเชื่อมไปสู่เกษตรกรโดยตรง ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย แรงงานตกงานกระทบต่อปัญหาครัวเรือน เกิดหนี้ NPL และหนี้สูญ การหมุนเวียนเศรษฐกิจหยุดชะงัก ดูแล้วผลกระทบที่ตามมามันหนักมาก

จึงขอเสนอมายังท่านนายกฯ และคณะทำงาน ศบค. ดังนี้

ข้อ 1 ในประกาศฉบับที่ 28 ไม่ได้ห้ามการขนส่งอาหาร ดังนั้น ขอให้ท่านพิจารณาอนุญาตร้านอาหารในห้าง สามารถเปิดครัวทำอาหารส่งได้ โดยให้เป็นการรับออเดอร์ผ่านแพลทฟอร์มฟู้ดดิลิเวอรีเท่านั้น

ข้อ 2 ให้ห้างกำหนดจุดรับ-ส่งอาหารนอกพื้นที่ห้าง

ข้อ 3 ให้ร้านจำกัดจำนวนพนักงาน เฉพาะพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายผลิต ฝ่ายจัดเตรียมเท่านั้น ให้ปฏิบัติงานได้

ข้อ 4 จะไม่มีการรับออเดอร์หน้าร้านเด็ดขาด

ข้อ 5 มีการตรวจเช็กไทม์ไลน์พนักงานทุกคนที่ต้องมาปฏิบัติหน้าที่ มีกฎระเบียบภายในร้านตามมาตรการสาธารณสุขที่ ศบค.กำหนด

ข้อ 6 หรือจะกำหนดให้ร้านต้องตรวจ Rapid test พนักงานก่อนเข้าร้าน ก็เชื่อว่าทางร้านยินดีปฏิบัติ

ข้อ 7 อนุญาตให้ร้านอาหารนิติบุคคลเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งได้ และให้โครงการคนละครึ่งชำระค่าบริการผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดดิลิเวอรีได้

หากท่านอนุญาตตามที่เสนอมานี้โดยเร็วที่สุด ไม่ต้องรอถึง 7 วัน ท่านจะช่วยอีกหลายชีวิต อีกหลายธุรกิจให้รอด ไม่ต้องเสียงเจ๊ง เสี่ยงตกงาน เพราะมาตรการเยียวยาต่างๆ ไม่เพียงพอและไม่ทั่วถึง

แต่หากท่านปล่อยให้คำสั่งมีผลต่อไป ด้วยความห่วงใยอย่างยิ่งว่าเมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง จุดที่ประชาชนต้องเลือกระหว่างโรคระบาดกับการอดยาก ถึงจุดนั้นมาตรการ หรือคำสั่งใดๆ อาจไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนอีกต่อไป

ซึ่งหากถึงจุดนั้นสถานการณ์ต่างๆ จะมีแต่แย่ลง กิจการร้านอาหารต่างก็เป็นเด็กดี ให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามคำสั่ง ศบค.มาโดยตลอด แม้ทุกมาตรการจะสร้างความบอบช้ำอย่างมากต่อกิจการก็ตาม

แต่สำหรับครั้งนี้ ดูจะหนักหนา และไม่สมเหตุผลในการสั่งปิดร้านอาหารในห้างว่าจะช่วยควบคุมการระบาดได้อย่างไร หรือหากท่านยืนยันว่าสมเหตุผล กรุณาแจ้งบอกเหตุผลนั้น ให้ประชาชนได้ทราบด้วย หรือหากใครจะคิดว่าขออะไรไม่ดูสถานการณ์ระบาดเลย ทำไมไม่อดทนให้ความร่วมมือ ขอโปรดช่วยบอกทีว่าร้านอาหารในห้างปลอดภัยน้อยกว่าสถานที่อื่นๆ ที่ยังเปิดได้อย่างไร

จึงเรียนมายังท่านเพื่อโปรดพิจารณา