พิษโควิดเดลต้า! หุ้นดาวโจนส์ร่วง 725 จุด หนักสุดในรอบปี

พิษเดลต้า! ดาวโจนส์ร่วง 725 จุด หนักสุดในรอบปี

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์เดลต้าที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลกรวมถึงในสหรัฐทำให้นักลงทุนพากันเทขายหุ้นครั้งใหญ่ โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐร่วงลงถึง 725 จุด หรือลดลง 2.1% เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ไปปิดที่ 33,962.04 จุด

ถือเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีก่อนที่ลดลงไป 943 จุด และเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในวันเดียวของปีนี้ แต่ยังดีกว่าปีก่อนที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลงมากกว่า 1,000 จุดถึง 6 ครั้ง และเคยปรับตัวลดลงสูงสุดถึงเกือบ 3,000 จุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคมปีก่อน

ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 68.67 จุด หรือ 1.6% ไปอยู่ที่ 4,258.49 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง 1.1% หรือ 152.25 จุด ไปปิดที่ 14,274.98 จุด

หุ้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือหุ้นของสายการบินและบริษัทอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในช่วงที่การแพร่ระบาดเพิ่งเริ่มต้นเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน อาทิ หุ้นของสายการบินอเมริกาแอร์ไลน์ลดลง 5.5% หุ้นของบริษัทเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยวคาร์นิวัลที่ลดลง 5.7% เช่นเดียวกับหุ้นของบริษัทเชฟรอนและเอ็กซอนโมบิล บริษัทผู้ผลิตน้ำมันที่ลดลง 8%

การเทขายหุ้นดังกล่าวยังส่งผลกระทบไปทั่วโลก อาทิ ตลาดในยุโรปหลายแห่งที่หุ้นก็พากันร่วงลงไปเฉลี่ยที่ราว 2.5% แต่ตลาดหุ้นในเอเชียลดลงไม่มากนัก ซึ่งต้องรอดูผลกระทบหลังการเปิดตลาดอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้

ด้านราคาน้ำมันในสหรัฐก็ลดลงมากกว่า 7% หลังจากโอเปคและชาติพันธมิตรเห็นชอบที่จะยังคงราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับสูงในปีนี้ต่อไป