วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่ารัฐบาลสืบทอดอำนาจกำลังวิ่งเข้าใกล้จุดรัฐล้มเหลว แม้จะออกมาตรการเข้มงวดเพื่อระงับยับยั้งการระบาดของโควิด-19 แต่ประชาชนอารยะขัดขืนและตะคอกกลับว่ามันเป็นเรื่องของมรึง แต่เรื่องของกรูคือประชาชนก็มีมาตรการเข้มข้นเร่งด่วนว่า ร่วมกันขับไล่นายกรัฐมนตรีคลั่งอำนาจให้ออกไป เพราะต่างเห็นพ้องว่าคือต้นตอทำให้ขาดแคลนวัคซีน

ออกไปเมื่อใดวัคซีนดีๆมาได้ทันที นายกฯที่เป็นทั้งรัฐมนตรีกลาโหมอวดอ้างว่ารอบรู้ด้านความมั่นคง แต่พอใช้อำนาจพ.ร.ก.ฉุกเฉินแก้วิกฤติโควิด กลับถูกประชาชนไล่ให้ยุบศบค.แล้วไปใช้กฎหมายปกติจะแก้ปัญหาได้ดีและรวดเร็วกว่า กองทัพมีทรัพยากรทั้งโรงพยาบาล สถานที่หน่วยทหารทั่วประเทศ หมอ พยาบาล นักเรียนแพทย์พยาบาล ทหารเสนารักษ์ บุคลากรทางการแพทย์ กำลังพล กำลังสำรองทางด้านสาธารณสุขพร้อมปฏิบัติการ และยานพาหนะทุกรูปแบบ

แต่ไม่ใช้สติปัญญานำมาให้บริการประชาชนเป็นโรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลหลักอย่างเต็มขีดความสามารถผนึกกำลังเข้ากับฝ่ายสาธารณสุข ซ้ำร้ายยังมาออกประกาศคำสั่งเมื่อ16ก.ค.ห้ามการชุมนุมเพื่อสกัดกั้นม็อบในวันนี้อีก มันจึงสะท้อนภาพของนายกฯและรมว.กห.คนนี้ว่าเป็นคนขี้ขลาด ไร้ภาวะผู้นำและเห็นแก่ตัว พาภาพพจน์ครอบครัวและสถาบันการศึกษาของตัวเองป่นปี้ไปด้วย ระยำตำบอนเข้าไปอีกคือทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพหม่นหมอง มิใช่เป็นกองทัพของประชาชน การลุกฮือขับไล่ของประชาชนจึงต้องเกิดขึ้น

เมื่อวานนี้คาร์ม็อบอุ่นเครื่องให้ร้อนก่อน วันนี้กลุ่มราษฎรหลากหลายเคลื่อนพลเข้าประจัญบานก่อนขยายผลสู่การจบฉากสุดท้ายของนายกฯสืบทอดอำนาจในเวลาอันใกล้นี้ จุดจบนั้นก็คือการลาออก ยุบสภา หรือเตลิดเปิดเปิงไปต่างประเทศนั่นเอง