นพ.เฉลิมชัย ชี้ระลอกนี้ติดเชื้อมากเดิมกว่าถึง 13 เท่า! ตายพุ่ง7เท่า เผยตอนนี้ทำได้แค่ประคอง

ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกวุฒิสภา เขียนบทควาผ่าน blockditร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย  เปรียบเทียบโควิดระลอกที่สาม กับระลอกที่สอง พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 13 เท่า ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 7 เท่า ว่าจากการระบาดของโควิดระลอกที่สอง ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ต่อเนื่องถึง 31 มีนาคม 2564 รวมเป็นระยะเวลา 105 วันนั้น
การระบาดของโควิดระลอกที่สามก็ได้ครบ 105 วันแล้วเช่นกัน โดยเริ่มระบาดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564 นับถึง 14 กรกฎาคม 2564
ลองมาดูเปรียบเทียบสถิติการระบาดของทั้งสองระลอกกันดู โดยเทียบในช่วงของการระบาด 105 วันเท่ากัน
1) จำนวนผู้ติดเชื้อ
ระลอกที่สอง 24,863 ราย
ระลอกที่สาม 334,166 ราย
2) จำนวนผู้เสียชีวิต
ระลอกที่สอง 34 ราย
ระลอกที่สาม 2840 ราย
3) การเสียชีวิตเมื่อคิดเป็นร้อยละต่อผู้ติดเชื้อ
ระลอกที่สอง 0.12%
ระลอกที่สาม 0.85%

จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในระลอกที่สาม มีเพิ่มขึ้นมากกว่าระลอกที่สอง 13.44 เท่า

และจำนวนผู้เสียชีวิต เมื่อคิดเป็นร้อยละต่อผู้ติดเชื้อ ในระลอกที่สามเพิ่มสูงกว่าระลอกที่สอง 7 เท่า
ความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ทั้งของจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตของทั้งสองระลอก มีปัจจัยสำคัญหลักคือ
ชนิดของไวรัสที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในระลอกที่สอง เป็นไวรัสสายพันธุ์หลักเดิม
ส่วนในการระบาดระลอกที่สาม ช่วงแรกในเดือนเมษายนและพฤษภาคมเป็นไวรัสสายพันธุ์อัลฟ่าหรืออังกฤษเดิม ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น 70%

และในช่วงมิถุนายน เป็นไวรัสสายพันธุ์เดลต้าหรืออินเดียเดิม ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดมากกว่าสายพันธุ์อัลฟ่าเพิ่มเติมไปอีก 60%
ดังนั้นแม้วินัยของประชาชนในระลอกที่สามอาจจะไม่ได้ลดหย่อนแตกต่างจากระลอกที่สอง
และมาตรการของทางการ ที่ออกมาในระลอกที่สามก็ไม่ได้น้อยกว่าระลอกที่สองแต่อย่างใด
แต่จำนวนตัวเลขของระลอกที่สาม ก็มีการระบาดที่กว้างขวางและรุนแรงกว่ามาก เพราะปัจจัยแตกต่างมาจากไวรัสที่เก่งขึ้น แพร่ระบาดรวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง
ดังนั้นวิธีการที่สำคัญที่สุด ในการควบคุมการระบาดของโควิดระลอกที่สามให้สำเร็จ จึงจำเป็นจะต้องยกระดับมาตรการให้เข้มข้นสูงขึ้น จนถึงขั้นใกล้เคียงกับการล็อกดาวน์ในระลอกที่หนึ่ง ซึ่งเคยได้ผลดีมาแล้ว

คือคุมผู้ติดเชื้อไว้ได้ที่ 4000 คน และเสียชีวิต 60 คน
การล็อกดาวน์ในระลอกที่สามขณะนี้ อาจจะไม่สามารถคุมได้ดีเหมือนในระลอกที่หนึ่งได้ เพราะเชื้อไวรัสเป็นคนละสายพันธุ์กัน และการดำเนินการที่เริ่มล็อกดาวน์ช้ากว่า

จึงต้องหวังว่าการล็อกดาวน์ในระลอกนี้ เป็นแต่เพียงการประคับประคอง ไม่ให้มีการติดเชื้อและเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรุนแรง
แล้วรอให้วัคซีนได้รับการฉีดจนครบ และเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในสิ้นปีนี้ครับ

Reference
ศูนย์ข้อมูล COVID-19
กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข