เผยโควิด-19 ระบาดหนักในเมียนมา ออกซิเจนเริ่มขาดแคลน เข้าคิวยาวรอซื้อ

เผยโควิด-19 ระบาดหนักในเมียนมา ออกซิเจนเริ่มขาดแคลน เข้าคิวยาวรอซื้อ

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ระบุว่า เกิดขาดแคลนออกซิเจนสำหรับใช้กับเครื่องช่วยหายใจขึ้นในหลายเมือง เริ่มตั้งแต่ที่ กะเล่ เมืองในเขตสะกายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วลุกลามต่อมายัง มัณฑะเลย์ และย่างกุ้ง 2 เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศแล้วในสัปดาห์นี้ โดยชาวบ้านจำเป็นต้องเข้าคิวรอซื้อนานหลายชั่วโมง สะท้อนให้เห็นว่า กำลังเกิดการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 ขึ้น

นาย โซ วิน ชาวเมืองย่างกุ้ง ซึ่งต้องการซื้อออกซิเจนให้กับผู้เป็นยายเปิดเผยว่า ต้องมาเข้าคิวตั้งแต่ ตี 5 แต่จนถึงเที่ยงวันนี้ ตนก็ยังต้องรอคิวอยู่ต่อไปเพราะยังไม่ได้รับออกซิเจนอย่างที่ต้องการ

นายสเตฟาน ดูยาร์ริช โฆษกของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ยูเอ็นประจำเมียนมา กำลังเป็นกังวลอย่างมาก เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมียนมากำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว “ทีมยูเอ็นที่นั่นเตือนว่า หากเกิดการแพร่ระบาดขนานใหญ่ขึ้นมา จะส่งผลทำลายล้างทั้งต่อสุขภาพของประชาชนและต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ” นายดูยาร์ริช ระบุ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม กระทรวงสาธารณสุขเมียนมา แถลงรายงานการติดเชื้อโควิด-19 ว่า เพิ่มขึ้น 4,377 ราย ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 188,752 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 71 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตรวมเพิ่มเป็น 3,756 ราย ในขณะที่อัตราส่วนตรวจพบการติดเชื้อต่อจำนวนการตรวจทั้งหมดอยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์

รายงานข่าวระบุว่า ไม่มีการแถลงชัดเจนถึงจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้ว มีเพียงตัวเลขการกระจายวัคซีน เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาที่ 3.5 ล้านโดส ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร 55 ล้านคนแล้ว อย่างมากที่สุดก็จะมีชาวเมียนมาเพียง 3.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ได้รับวัคซีนป้องกันครบ 2 เข็ม

ในขณะที่ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ แสดงให้เห็นว่า อัตราติดเชื้อโดยเฉลี่ยในรอบ 7 วันของเมียนมา เพิ่มจาก 1.18 รายต่อประชากร 100,000 คนในวันที่ 25 มิถุนายน เป็น 6.08 รายต่อ 1 แสนคนในวันที่ 9 กรกฎาคม ส่วนอัตราการเสียชีวิตก็กระโดดจาก 0.01 ต่อ 1 แสนคนเป็น 0.08 ต่อ 1 แสนประชากรในช่วงเวลาเดียวกัน