กทม.ป่วยโควิดใหม่ 3,191 ราย ดับ 51 ราย ดันยอดวันนี้ป่วยสูงถึง 9.3 พันราย ดับนิวไฮถึง 91 ราย ยอดผู้ป่วยรักษาสูงถึง 8 หมื่นคน

วันที่ 10 ก.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผยสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 186.8 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.9 แสนราย เสียชีวิตสะสม 4.03 ล้านราย เพิ่มขึ้น 8.2 พันราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,326 ราย

เป็นการติดเชื้อในประเทศ 9,115 ราย เรือนจำ 192 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 19 ราย รักษาหาย 3,841 ราย เสียชีวิต 91 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 326,832 ราย หายสะสม 243,918 ราย เสียชีวิตสะสม 2,625 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 80,289 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 42,687 ราย รพ.สนาม 37,602 ราย อาการหนัก 2,738 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 717 ราย

ผู้เสียชีวิต 91 ราย มาจาก กทม. 51 ราย สมุทรปรากร 9 ราย, นนทบุรี 8 ราย, ปทุมธานี 5 ราย, นครปฐม 4 ราย, ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นราธิวาส จังหวัดละ 2 ราย, เพชรบุรี มหาสารคาม กำแพงเพชร สงขลา เพชรบูรณ์ ฉะเชิงเทรา นครศรีธรรมราช และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 1 ราย

เป็นชาย 47 ราย หญิง 44 ราย อายุต่ำสุด 26 ปี สูงสุด 98 ปี อายุกลาง 67 ปี ปัจจัยเสี่ยงโรคประจำตัวยังเหมือนเดิม ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไต หัวใจ และติดจากคนในครอบครัว เพื่อน เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน

ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 19 ราย ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 3 ราย เอธิโอเปีย อินโดนีเซียและรัสเซีย ประเทศละ 1 ราย กัมพูชา 1 รายมาจากช่องทางธรรมชาติ เป็นชายไทยอายุ 20 ปี และพม่า 12 ราย มาจากช่องทางธรรมชาติทั้งหมด

10 จังหวัดติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ได้แก่ 1.กทม. 3,191 ราย สะสม 93,804 ราย 2.ปทุมธานี 672 ราย สะสม 11,286 ราย 3.สมุทรปราการ 603 ราย สะสม 21,732 ราย 4.สมุทรสาคร 551 ราย สะสม 12,055 ราย 5.ชลบุรี 359 ราย สะสม 11,249 ราย

6.นนทบุรี 334 ราย สะสม 13,836 ราย 7.สงขลา 225 ราย สะสม 6,510 ราย 8.ลพบุรี 207 ราย สะสม 1,348 ราย 9.สระบุรี 175 ราย สะสม 2,602 ราย และ 10.ปัตตานี 173 ราย สะสม 4,096 ราย

สำหรับคลัสเตอร์ใหม่วันนี้ 1.พระนครศรีอยุธยา บริษัทผลิตน้ำประปา อ.บางปะอิน 9 ราย 2.นครปฐม ตลาดสมภพ อ.สามพราน 31 ราย และโรงงานผลิตพลาสติก อ.นครชัยศรี 28 ราย 3.ราชบุรี บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อ.บ้านโป่ง 10 ราย

ขณะที่การฉีดวัคซีนวันที่ 9 ก.ค. ฉีดได้ 399,908 โดส เป็นเข็มแรก 330,371 ราย และ เข็มสอง 69,537 ราย ทำให้การฉีดวัคซีนสะสมรวม 12,375,904 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 9,130,526 ราย และเข็มสอง 3,245,378 ราย