‘สมพงษ์’ ตอก ส.ส.มด รู้จักแยกแยะ เชื่อมั่นรัฐบาลมาถูกทาง เยียวยาให้นายจ้างลูกจ้างอยู่ได้ กิจการไปต่อ

นายสมพงษ์ โสภณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ เขต 4 จังหวัดระยอง กล่าวว่า ตามที่ ส.ส.มด นางสาววรรณวิภา ไม้สน ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาพูดทางทวิตเตอร์และเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

วันนั้นบอกจ่ายเงินสดทุก 5 วัน วันนี้ บอกดีเดย์เริ่ม 23 นี้ สรุปว่าจะเยียวยาก็เกือบเดือน รัฐบาลชุดนี้เหลืออะไรให้เชื่อถือได้บ้าง? นั้น ผมก็เริ่มสงสัยว่าจากที่ผ่านมา ท่านเป็นอดีตผู้นำแรงงานจริง ๆ ห่วงแรงงานจริง ๆ หรือแค่ใช้ความหวังพวกเขา มาสร้างชื่อให้ตัวคุณ ผมเองก็อยู่ในกลุ่มแรงงาน คนทำงานมาโดยตลอด ตอนทราบข่าวก็ได้มีการสอบถามทางรัฐมนตรีแรงงานถึงรายละเอียดต่าง ๆ มาโดยตลอด อย่างแรกเลยท่านต้องแยกแยะก่อนนะครับ ว่าอะไรคือการจ่ายเยียวยา และอะไรคือการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมจากภาครัฐ หลังผมได้ทราบข่าว จึงได้สอบถามความจริงกับทางท่านรัฐมนตรีแรงงาน ท่านได้ชี้แจงให้ทราบว่า จากกรณีประกาศปิดแคมป์คนงานก่อสร้างตามประกาศของ ศบค.นั้น

ส.ส.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า วันนี้กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้จ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเหตุสุดวิสัยโควิด-19 โดยตัดจ่ายระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน-2 กรกฎาคม 2564 แล้วก็จ่ายเงินให้กับลูกจ้างไปประมาณ 13,655 ราย เป็นเงิน 28 ล้านกว่าบาท ตรงนี้คือการจ่ายเยียวยาตามสิทธิของเขาที่ท่านถามถึง คือจ่ายทุก 5 วัน เขาจ่ายไปแล้วนะครับ และที่กำลังจะจ่ายคือการเยียวยาที่เพิ่มเติมเพิ่มให้อีก ต้องแยกกันนะครับ เยียวยาตามสิทธิ เยียวยาเพิ่มเติม และส่วนเพิ่มเติมที่จะจ่ายในวันที่ 23 นี้นั้น รอบนี้ผมเองมองว่าเป็นการเริ่มต้นที่ถูกทาง เพราะรัฐบาลเยียวยาทั้งลูกจ้างและนายจ้าง ซึ่งลูกจ้างได้รับ 2,000 บาท และนายจ้างได้รับ 3,000 คูณ จำนวนลูกจ้างโดยไม่เกิน 200 คน ส่วนตัวผมมองว่าถ้าหากนายจ้างเข้มแข็ง ลูกจ้างสามารถอยู่ได้ กิจการก็ไปต่อได้

“ผมขอเถอะครับ ทุกวันนี้พี่น้องทุกๆ คนก็ทุกข์กันพอแล้ว อย่าปั่นข่าวเพื่อแค่ความสะใจ หรืออยากทำลาย ผมเข้าใจว่าการเมืองเป็นอย่างไร แต่ท่านก็อย่าลืมความเป็นมนุษย์ว่าอย่างที่ผมบอก เราเป็น ส.ส.หน้าที่เราคืออะไร และต้องทำอย่างไรเพื่อช่วยพวกเขา ไม่ใช่นำความเดือดร้อนของเขา มาสร้างชื่อเสียงของคุณอย่าลืมครับ เราต้องใช้เสียงที่ “ดัง” ของพวกเรา ช่วยแก้ปัญหาของเขา ไม่ใช่เอาปัญหาของเขา มาสร้าง ชื่อ “ของเราให้ดัง” ส.ส.สมพงษ์ กล่าวในท้ายสุด