คนเป็นนายกฯต้องหูดีไม่ใช่ปากดี จตุพร ชี้ ไล่ประยุทธ์ คือทางรอดของประเทศ! แม้กองทัพหนุนก็ไม่หวั่น

‘จตุพร’ ชี้ ไล่ ‘ประยุทธ์’ คือทางรอดของประเทศ มีกองทัพหนุน ก็ไม่หวั่น อัด คนเป็นนายกฯ ต้องหูดีไม่ใช่ปากดี เชื่อ จะเกิดเหตุไม่คาดฝันกับรัฐบาล

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่การชุมนุมในวันนี้มีหลายกลุ่มมาจัดกิจกรรม กังวลว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่ ว่า ตนเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเป็นตัวกำหนด เรามีทั้งความเห็นต่างและเหมือนกัน แต่ตอนนี้ตนเชื่อว่าทุกกลุ่มมองเห็นปัญหาเดียวกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคือ ปัญหาของประเทศไทย ตนเห็นมาหลายรัฐบาล ทั้งจากการยึดอำนาจและการเลือกตั้ง เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ได้อีกไม่กี่วัน

เมื่อถามว่า หลายคนมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ จะทำให้การขับไล่จะเป็นไปได้ยากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นายจตุพร กล่าวว่า จอมพลถนอม กิตติขจร ก็มีกองทัพ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ก็มีกองทัพ แต่ไม่สามารถทัดทานต่อพลังของประชาชนได้ ตนเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ สิ่งที่เป็นปัจจัยภายในก็น่าจะหนักกว่าปัจจัยภายนอกเสียอีก การที่พล.อ.ประยุทธ์ ลุแก่อำนาจหลายเรื่อง ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ไปภูเก็ตยังทำเล่นกันอยู่ และพูดผิดพลาดมาโดยตลอด ในวันที่ประชาชนต้องการรัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหา คนที่เป็นผู้นำประเทศ จะต้องพูดให้น้อย และพูดแต่สิ่งที่ถูกต้อง ต้องปลอบประโลมจิตใจประชาชน แต่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้เห็นว่า รัฐบาลเป็นที่พึ่งของประชาชนไม่ได้ ดังนั้นตนเชื่อว่าหลังจากนี้ไป จะเห็นความเปลี่ยนแปลงตามลำดับ และตนก็เห็นว่าขบวนการของประชาชนในแต่ละภาคส่วน จะขยับเข้าหากัน จุดเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น เป็นเรื่องของประชาชนที่จะออกมาจัดการกับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์

นายจตุพร กล่าวว่า ปัจจุบันคนที่เชียร์พล.อ.ประยุทธ์ ต่างก็เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์พาประเทศไปไม่รอด จึงจะออกมาด้วยเช่นกัน ทั้งที่ตนได้บอกกับพรรคพวกว่าเราจะไม่ใช้วิธีระดมคนเหมือนกับในอดีต เพราะการต่อสู้กับเผด็จการ ในลักษณะแบบนี้นั้น ต้องให้ประชาชนมากันเอง ยามสถานการณ์ โควิด-19 เชื่อว่าหากเอาหลักให้ถูก ประชาชนก็จะเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือการขับเคลื่อนของประชาชนได้สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นกับรัฐบาล ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกาศข้อกำหนดฉบับที่ 25 ในเวลาตีหนึ่งของคืนวันที่ 26 มิถุนายน แล้วตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงวันนี้ อธิบายได้เลยว่าคำประกาศดังกล่าวได้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ร้านค้าก็เดือดร้อน การก่อสร้างก็เดือดร้อน คนงานกระจายโควิดไปทั้งแผ่นดินแล้ว ทั้งที่ความจริงทุกจังหวัดได้ควบคุมสถานการณ์ไว้อย่างดี เรื่องวัคซีนก็ยังเป็นปัญหาเดิม

“นายกฯ ต้องยอมรับความเป็นจริงและฟังคนอื่นบ้าง การเป็นนายกฯ ต้องใช้หูให้มากกว่าปาก แต่นายกฯ ประเทศไทยคนนี้ ทำตัวเหมือนเป็นคนหูหนวก ผมเชื่อว่าการที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรับฟังคนอื่น เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลง และแก้ไขความทุกข์ร้อนของราษฎร จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ต่อให้ดื้อด้านอย่างไร หรือกองสนับสนุนจะมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถยื้อพลังประชาชนได้ ตอนนี้สำรวจความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ก็แทบไม่เหลือแล้ว เหลือแต่โพลล์ปลอม ที่คอยปลอบประโลมพล.อ.ประยุทธ์ในเวลานี้เท่านั้นเอง” นายจตุพร กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ที่ผู้มีอำนาจจะปิดเกมกลุ่มไทยไม่ทน โดยนำตัวนายจตุพรเข้าคุกอีกครั้ง นายจตุพร กล่าวว่า ตนได้ยินเรื่องนี้จากคนในรัฐบาลบางคน สำหรับคดีความของประเทศไทยเมื่อศาลฎีกาพิพากษาแล้วก็ต้องถูกจำคุก แต่ปรากฏว่าเมื่อตนถูกปล่อยตัว และออกมาเคลื่อนไหวขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ ก็ให้มีการนับใหม่ ทั้งที่แต่มีประเทศไทยมาไม่เคยมีแบบเรื่องนี้ ทั้งที่ติดคุกครบแล้ว ตนจึงต้องไปร้องขอความเป็นธรรมจากประธานศาลฎีกา และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเป็นอุปสรรคมาขัดขวางการขับไล่รัฐบาล ดังนั้นจึงมีความคาดหวังว่า ขบวนการเหล่านี้ จะไม่เกิดขึ้น ตนพร้อมจะติดคุกในกรณีที่กระทำความผิด

เมื่อถามถึงกรณีม็อบราษฎรประกาศขีดเส้น 120 วันเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากทำเนียบรัฐบาล และจะขยายตัวมากขึ้นนั้น นายจตุพร กล่าวว่า สุดท้ายก็ใช้วิธีการเดิม กับการสกัดการจับกุมคุมขัง ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องรู้ว่า ตัวเองพาประเทศไทยไปไม่รอด องคาพยพก็พัง นโยบายการแก้ไขต่างๆ ก็สั่งการอะไรไม่ได้แล้ว แค่เรื่องวัคซีนง่ายๆ ใครก็คิดเป็น อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนได้ลุกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ เพราะหากปล่อยให้รัฐได้ใช้อำนาจอย่างโสมม ก็จะเปลี่ยนไม่ได้ วันนี้ก็ประจักษ์ชัดว่า มาตรการต่างๆ ที่ประกาศออกมาล้มไม่เป็นท่า ประชาชนติดเชื้อจากโควิดตาย แต่นายกฯ ยังลั้นลาอยู่ ยังพูดภาษาอังกฤษด้วยความคึกคะนอง ทั้งที่เป็นความโง่บัดซบที่สุด ตั้งแต่ประเทศไทยเคยมีมา

เมื่อถามว่า ยอดจำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 จะส่งจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ตั้งแต่มีการเคลื่อนไหวยังไม่เคยมีผู้ติดเชื้อจากการชุมนุม พล.อ.ประยุทธ์ พูดตอนไปภูเก็ตว่าหากจะเปิดประเทศก็ต้องมีความเสี่ยง ดังนั้นประชาชนก็ต้องเสี่ยงในการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์เช่นกัน เป็นทางเดียวที่จะพาชาติบ้านเมืองรอด