อีสานอ่วม! หวั่น คลัสเตอร์ใหม่ ไทยสร้างไทย ชี้ รัฐบาลบริหารโควิดมั่ว กระทบทั่วประเทศ

ไทยสร้างไทย ชี้ รัฐบาลบริหารโควิดมั่ว กระทบทั่วไทย อีสานอ่วม หวั่น คลัสเตอร์ใหม่

3 ก.ค. 2564 นายกิจประเสริฐ นพรัตน์ กรรมการกฎหมายและการเมืองพรรคไทยสร้างไทย ชี้ รัฐบาลบริหารวิกฤตโควิดมั่ว ส่งผลกระทบทั่วไทย ซัด รัฐบาลออกคำสั่งล็อคดาวน์กรุงเทพ-ปริมณฑล รวมถึงสี่จังหวัดชายแดนใต้ กระทบคนตัวเล็ก โดยเฉพาะแรงงานซึ่งส่วนมากมาจากอีสาน โต้รมต.มหาดไทยประเด็นการลดการแพร่ระบาดโควิด หวั่น คลัสเตอร์ใหม่ระบาดหนักและรับมือยากยิ่งขึ้น

ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ซึ่งลงนาม โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีสาระสำคัญคือการล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล จังหวัดนครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา) มีผล 28 มิ.ย. 2564 จนถึงวันนี้ครบ 5 วัน คนตัวเล็กโดยเฉพาะในธุรกิจอาหาร และแรงงานก่อสร้างได้รับผลกระทบเต็มๆ จากนโยบายที่ออกมาโดยไม่คิดให้รอบด้านของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ออกคำสั่งสายฟ้า แต่มิได้วางแผนชดเชยหรือเยียวยาประชาชน

หลังออกมาตรการดังกล่าว ล่าสุดวันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 6,087 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 61 ราย นับเป็น New High (ยอดสูงสุดรายวันทั้งป่วยและตาย) สิ่งที่รัฐต้องทบทวนคือการล็อคดาวน์ดังกล่าวเป็นการสะกัดกั้นหรือเร่งการแพร่ระบาดของโควิดไปยังภูมิภาคอื่นๆของประเทศ ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่ามีแรงงานอีสานในภาคกลางอยู่ราว 2.8 ล้านคน (กรุงเทพ 1.2 ล้านคน) ขณะที่แรงงานอีสานที่อยู่ในภาคเหนือและภาคใต้มีอยู่เพียง 1.3 แสนคน และ 0.9 แสนคนตามลำดับ การเร่งขับแรงงานออกนอกพื้นที่กรุงเทพโดยไม่ได้วางแผนหรือมีมาตรการรองรับที่ชัดเจนรัดกุมจึงเป็นการดำเนินนโยบายที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิดเป็นอย่างยิ่ง

การที่พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า “การล็อคดาวน์ กทม. สามารถช่วยลดการแพร่ระบาดโควิดได้แน่นอน รวมทั้งแก้ไขปัญหาเตียงไม่พอ” จึงเป็นคำพูดที่สะท้อนความตื้นเขินของวิสัยทัศน์ของรัฐบาลชุดนี้ได้อย่างน่ากังวลท่ามกลางมหาวิกฤตนี้
นายกิจประเสริฐระบุว่า “ผมในฐานะคนอีสานคนหนึ่ง ต้องการชี้ให้รัฐบาลได้เห็นว่าหลายครอบครัวชาวอีสานยังชีพด้วยการเกษตรแต่ก็เจอภัยแล้ง เจอน้ำท่วม พี่น้องชาวอีสานจำนวนหลายล้านจึงมาทำงานในภาคบริการและแรงงานในกรุงเทพเพื่อส่งเงินเลี้ยงปากท้องคนในครอบครัว แต่พอเจอมาตรการรัฐแบบนี้ หลายคนตั้งตัวไม่ทัน จากการสัมภาษณ์พี่น้องชาวอีสานที่ทำงานในภาคบริการและแรงงานหลายคนระบุว่าไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาจากรัฐเลย”

“ขณะนี้ฐานะทางการคลังของรัฐบาลมีความเปราะบางเป็นอย่างมาก เพราะนับตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ยึดครองอำนาจมาเป็นเวลา 7 ปีกว่า รัฐบาลไม่มีศักยภาพในการหาเงิน จึงต้องกู้ จนหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนแตะระดับ 54.28% และ 89.3% ของ GDP ตามลำดับ ในขณะที่มีมหาวิกฤตโควิด วัคซีนฉีดไม่ครบ ยุทโธปกรณ์รบพร้อม หมอไม่พร้อม ไทยไม่ชนะ คนตกงานราว 9 ล้านคน ร้านอาหารปิดนับแสนราย ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก รัฐบาลได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไร้ศักยภาพในการจัดการกับวิกฤตนี้ ท่านต้องยอมถอย และเปิดโอกาสให้คนเก่ง มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารประเทศต่อไป” นายกิจประเสริฐกล่าว