ก้าวไกล อัดต่อ กองทัพ ขอวัคซีนให้กำลังพล ขณะ ปชช.ต้องซื้อเต็นท์กางนอนริมถนน ถาม เร่งทหารเกณฑ์เข้าไป เพราะบัตรเอทีเอ็มผู้ใหญ่ กำลังสั่นคลอนใช่ไหม?

วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่รัฐสภา นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะทำงานติดตามนโยบายการปฏิรูปกองทัพและการเกณฑ์ทหารพรรคก้าวไกล กล่าวกรณีที่กระทรวงกลาโหมได้ขอสนับสนุนวัคซีนไปยังกรมควบคุมโรคให้กับทหารเกณฑ์ 45,000 นาย พร้อมพนักงานเจ้าหน้าที่และบริวารอีก 15,000 นาย รวมทั้งสิ้น 60,000 นาย ว่า

คณะทำงานติดตามนโยบายปฏิรูปกองทัพและการเกณฑ์ทหารพรรคก้าวไกล ได้ชี้แจงต่อสาธารณชนและบอกผ่านไปยังกระทรวงกลาโหมแล้วว่าในช่วงที่มีการเรียกเกณฑ์ทหารนั้น ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องเรียกระดมพล ซึ่งก็ได้มีการขยายเวลาการเข้ารับราชการทหารจากวันที่ 1 พ.ค. เป็นวันที่ 1 มิ.ย. ผ่านไป 1 เดือน วันนี้เริ่มมีการติดโควิด-19 ในหลายๆ กรมกอง เริ่มมีการกักตัวจำนวนหลายพันนายในทุกกองทัพ แบบนี้เรียกไม่ฟังเสียงเตือนของประชาชน ไม่สนใจว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เมื่อเกิดสถานการณ์เช่นนี้ก็มาเรียกร้องขอวัคซีนแซงคิวประชาชน

สิ่งที่พบเห็นคือประชาชนในระดับเดียวกันกับคนในระดับกองทัพยังคงต้องรอคอยวัคซีน ในปัจจุบันยังคงเปิดรับการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 โรคและผู้สูงอายุ คนทั่วไปยังคงอยู่ในเกณฑ์นี้อยู่ แต่กระทรวงกลาโหมกลับขอความร่วมมือไปยังกรมควบคุมโรคขอวัคซีนให้กับนายทหารตามเอกสารที่ตนได้เปิดเผยไปเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.)

โดยในเอกสารได้เขียนไว้ชัดเจนว่าขอวัคซีนให้กำลังพลพร้อมครอบครัวและบริวารที่พักอาศัยในบ้านพักข้าราชการ ครอบครัวของทหารต้องได้รับความปลอดภัยก่อนประชาชนใช่หรือไม่ แม้แต่คนรับใช้ก็ไม่ให้มีใครที่อยู่รอบตัวได้รับความเสี่ยงเลย เพราะต้องการให้ตัวท่านมีความปลอดภัย สรุปแล้วทหารเป็นรั้วของชาติใช่หรือไม่

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์คับขันหากเกิดภาวะวิกฤตเกิดภาวะสงคราม ทหารเป็นแนวหน้าไปรบกับข้าศึก แต่วันนี้ข้าศึกมาในรูปแบบสงครามเชื้อโรค คนที่เป็นแนวหน้าตัวจริง คือ บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งวันนี้ได้ฉีดวัคซีนครบแล้วหรือยัง หากฉีดครบแล้วยังติดโควิดอยู่หรือไม่ วัคซีนเข็มที่ 3 มีมาแล้วหรือยัง วัคซีนที่มีคุณภาพมากกว่านี้มาพร้อมหรือเปล่า แนวหน้ายังใจตุ้มๆ ต่อมๆ อยู่เลย แต่คนที่เรียกตัวเองว่ารั้วของชาติกลับขอแซงคิว

แบบนี้หมายความว่าอย่างไร ในขณะที่ประชาชนในพื้นที่ กทม. ติดเชื้อโควิด-19 ไม่สามารถพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสนามและไม่สามารถกลับที่พักอาศัยของตัวเองได้ เพราะกลัวนำเชื้อไปติดคนในครอบครัว ต้องซื้อเต็นท์กางนอนริมถนน แต่โลกของกองทัพกลับมีหนังสือขออนุมัติจัดการวัคซีน และวันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากกระทรวงกลาโหมและทางกองทัพ

“ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า การเร่งรีบนำทหารเกณฑ์เข้าไปยังไม่มีความจำเป็นใดๆ แต่บัตรเอทีเอ็มในข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กำลังสั่นคลอนใช่หรือไม่ ท่านนำทหารเข้าไปเป็นพลทหารรับใช้ ปล่อยกลับบ้าน แล้วเก็บบัตรเอทีเอ็มไว้ ซึ่งบัตรเอทีเอ็มจ่ายเงินเดือนสิ้นสุดเดือน มี.ค. ถ้าไม่รีบนำทหารเข้ากองประจำการ บัตรเอทีเอ็มของทหารรุ่นที่กำลังจะปลดประจำการจะไม่โอนเงินเข้าบัญชีท่านใช่หรือไม่

จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดและไม่สนใจว่าโรคโควิด-19 จะทำร้ายประชาชนขนาดไหน ไปเกณฑ์ทหารมาทั้งๆ ที่ยังทำอะไรไม่ได้ นอกจากนอน ตื่น และวิ่งอยู่ภายใน และติดเชื้อกันเองภายใน วันนี้สังคมไทยอยู่คนละโลกกันเลย จะให้อภิสิทธิ์ชนแก่ทหารทั้งหมดไม่ได้ วันนี้เอะอะอะไรทหารอย่างเดียว เวลามาพูดของบประมาณได้มากกว่าเพื่อนแล้ว

เวลาเรื่องความเป็นความตายเรื่องสาธารณสุขก็จะขอปลอดภัยกว่าเพื่อนอีก สรุปแล้วประเทศนี้จะมีทหารอย่างเดียวใช่หรือไม่ ผมยืนยันว่าจะติดตามเรื่องนี้ต่อ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหมจะต้องรับผิดชอบและต้องมีคำตอบประเด็นนี้ให้กับประชาชน” นายณัฐชา กล่าว