สรรพากร แจงร่อนหนังสือจี้แม่ค้ายื่นแบบรายได้ หวังดีไม่อยากให้โดนปรับ

สรรพากร แจงกรณีร่อนหนังสือจี้แม่ค้ายื่นแบบรายได้ หวังดีไม่อยากให้โดนปรับ ยันการยื่นแบบและชำระภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน

นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรได้มอบหมายให้ทูตภาษี (Tax Ambassador) ที่ประจำอยู่สำนักงานสรรพากรทั่วประเทศ พร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้เสียภาษีและประชาชนเพื่อให้ยื่นแบบฯ และชำระภาษีทุกประเภทให้ถูกต้องเพื่อประโยชน์ของผู้เสียภาษีในระยะยาว

การที่กรมสรรพากรได้ดำเนินการส่งหนังสือแจ้งเตือนถึงผู้เสียภาษี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้มีรายได้ถึงเกณฑ์แต่ยังไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีได้ทราบว่า มีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ เมื่อมีรายได้ต่อปีถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กฎหมาย จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับและเงินเพิ่ม เพราะตามหลักแล้วผู้ที่มีรายได้จากการค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าออนไลน์หรือขายสินค้าทั่วไป เมื่อมีรายได้ต่อปีเกิน 60,000 บาทขึ้นไป ทุกคนก็จะต้องมีหน้าที่ยื่นแบบฯ และในกรณีที่ไม่ได้ยื่นแบบภายในกำหนดเวลาต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท และเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ต้องชำระ

นอกจากนี้ กรมสรรพากรไม่ได้มีเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีจากผู้ค้าขายเฉพาะรายใดรายหนึ่ง หรือจากโครงการใดโครงการหนึ่ง และไม่ได้มุ่งเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการรัฐแต่อย่างใด และขอยืนยันว่ากรมสรรพากรได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่และไม่ต้องการให้เกิดกรณีที่ผู้ประกอบการต้องเสียค่าปรับและเงินเพิ่ม เนื่องมาจากยื่นแบบเกินกำหนดเวลา เพราะจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนโดยเฉพาะในช่วงเวลาเช่นนี้ และเพื่อสร้างความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีทุกคน เมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด มีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ ทุกราย

โฆษกกรมสรรพากร กล่าวทิ้งท้ายว่า การยื่นแบบและชำระภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ซึ่งผู้ประกอบการและผู้ค้าออนไลน์สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีอย่างง่าย ได้ที่ www.taxliteracy.academy

นอกจากนี้ กรมสรรพากรจัดให้มีทูตภาษี (Tax Ambassador) ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้เสียภาษีและประชาชนเพื่อให้ชำระภาษีได้อย่างถูกต้องครบถ้วน