“ชูศักดิ์” ชี้ ปัญหาร่างรัฐธรรมนูญฉบับปชป.มีทางออก เชื่อรัฐสภาซึ่งเป็นผู้ผ่านร่างคงไม่ปล่อยให้ร่างขัด รธน.
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขระบบเลือกตั้งเป็นบัตรสองใบของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่รัฐสภาโหวตผ่านเพียงร่างเดียว และอาจมีปัญญาขัดรัฐธรรมนูญว่า ปัญหาขัดรัฐธรรมนูญโดยอาจหมายความถึงรัฐธรรมนูญขัดกันเอง ว่า ตนเห็นว่ารัฐสภาที่จะผ่านรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมคงไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ขณะเดียวกันการจะขัดรัฐธรรมนูญหมายความว่าผ่านเป็นกฎหมายออกมาแล้ว หรือผ่านวาระสามแล้ว ก่อนจะตราเป็นกฎหมายมีผู้ไปร้องศาล ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ปัญหาร่างของปชป.คือเขียนหลักการไว้เพียงสองมาตรา และจะไปขัดกับมาตราอื่นๆถ้าแก้เพียงสองมาตรานี้เท่านั้น เช่น ไปขัดกับมาตรา 86 ที่ยังเขียนส.ส.ไว้ 350 กับ 150 และมาตราอื่นๆอีกสองสามมาตรา แปลว่า จะต้องแก้หรือยกเลิกมาตราอื่นๆไปด้วย ปัญหาที่วิพากวิจารณ์กันคือเมื่อไม่ได้เขียนไว้ในหลักการ จะแปรญัตติขัดกับหลักการมิได้ ส่วนตัวมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เขียนการแปรญัตติไว้ในข้อ 124 บอกว่าการแปรญัตติเพิ่มมาตราขึ้นใหม่ ตัดทอนหรือแก้ไขมาตราเดิม ต้องไม่ขัดกับหลักการ แต่ที่สำคัญคือมีความต่อไปว่า เว้นแต่การแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่เกี่ยวเนื่องกับหลักการนั้น ซึ่งมีความหมายว่าแม้ไม่ได้เขียนไว้ในหลักการแต่หากมันเกี่ยวเนื่องกันกับหลักการก็แปรญัตติได้ ซึ่งระบบเลือกตั้งเขียนไว้เกี่ยวเนื่องกันตั้งแต่มาตรา 83 ถึงมาตรา 94 ตนจึงเห็นว่าสามารถที่จะแปรญัตติเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวได้

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า ข้อบังคับข้อ 124 ของรัฐสภาเขียนต่างจากข้อบังคับสภาผู้แทนข้อ 125 วรรคท้าย ของสภาผู้แทนไม่มีความตอนท้าย คือข้อยกเว้น การแปรญัตติที่เกี่ยวเนื่องกันตามข้อบังคับข้อ 124 ของรัฐสภา ตนเองเข้าใจเอาว่า คงจะมีจุดมุ่งหมายว่าคนยกร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม อาจจะเขียนหลักการไว้ส่วนหนึ่ง พอกำหนดรายละเอียดก็อาจจะไม่ครอบคลุม แก้ เพิ่มเติมตัดทอนไม่หมด อาจจะนึกไปไม่ถึงหรือดูไม่ครบถ้วน หรือมีเหตุผลอย่างอื่นๆ ทำให้มาตราที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวเนื่องไม่สอดคล้องสัมพันธ์กันหรือขัดกัน ข้อบังคับจึงแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้ ในส่วนกรรมาธิการของพรรคพท. ตนเองสื่อไปเป็นส่วนตัวกับบางท่าน นัดว่าจะพูดคุยกันในสัปดาห์หน้า