ธีรัจชัย ชี้ ‘ธรรมนัส’ ถือธงนำพปชร. เพื่อต่อท่ออำนาจ ‘ประยุทธ์-คสช.’ เผย กมธ.ป.ป.ช. เร่งสอบ ‘จริยธรรม’

‘ธีรัจชัย’ ชี้ ‘ธรรมนัส’ ถือธงนำพปชร. เพื่อต่อท่ออำนาจ ‘ประยุทธ์-คสช.’ เผย กมธ.ป.ป.ช. เร่งสอบ ‘จริยธรรม’ พัวพันคดีที่ออสเตรเลีย หวังทำ ค.จริงให้ปรากฏ ถอดพ้น รมต.
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นั่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมประกาศจะนำพรรคพปชร. กวาดคะแนนเป็นอันดับ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่พปชร. ต้องการจะเป็นอย่างที่ ร.อ.ธรรมนัส ต้องการ ที่ต้องการเป็นพรรคเดียวเพื่อสร้างความชอบธรรมให้การครองอำนาจต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือคนในเครือข่าย คสช. สิ่งที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อใช้ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ให้มี ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ทั้งยังต้องการให้ ส.ส.สามารถแปรญัตตินำงบประมาณลงพื้นที่ได้ เพื่อให้พรรค พปชร. ชนะเลือกตั้ง แต่ปัญหาที่ได้สร้างไว้ ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาจับคนเห็นต่าง กระบวนการยุติธรรมที่มีข้อสงสัยมากมาย จึงอย่ามั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง ขอให้ประชาชนได้ช่วยกันกดดันตรวจสอบ และสั่งสอนผ่านการเลือกตั้ง แล้วมาแก้ไขกติกาต่างๆ ให้เป็นธรรมเพื่อแข่งขันกันอย่างยุติธรรม

นายธีรัจชัยกล่าวว่า การขยับให้ ร.อ.ธรรมนัส มาเป็นเลขาธิการพรรค พปชร. เป็นเพราะมีผลงานจากการเลือกตั้งซ่อมหลายครั้ง แต่สิ่งที่ พปชร.ทำ ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และพัฒนาประชาธิปไตย ต้องการเพียงสืบทอดอำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์ และความชอบธรรมของฝ่ายตัวเองมากกว่า สุดท้ายจะไม่ทำให้เกิดการแก้ไขมาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว. 250 คน โหวตเลือกนายกฯ ซึ่งเป็นการเอาเปรียบคนอื่น

เมื่อถามถึงกรณีการพิจารณาคดีความของ ร.อ.ธรรมนัส ในชั้น กมธ.ป.ป.ช. จะส่งเรื่องไปที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อใด นายธีรัจชัย กล่าวว่า กมธ.ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบมาตรฐานจริยธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส อยู่ เมื่อวันพุธ ที่ 16 มิถุนายน เราได้เชิญ นายวิชา มหาคุณ และรองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้ามาชี้แจง ซึ่งนายวิชา ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจ ว่า มาตรฐานจริยธรรมควรจะมาจากภายในของนักการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองเอง โดยยกตัวอย่างกรณีรัฐมนตรีท่านหนึ่ง ที่ประเทศเยอรมนี ถูกร้องเรียนตรวจสอบการทำวิทยานิพนธ์ ปริญญาเอก ที่ลอกจากคนอื่นมา ผู้นำประเทศในขณะนั้นออกมาปกป้องว่าเป็นความผิดในอดีต แต่สุดท้ายรัฐมนตรีท่านนั้นลาออก เพราะความละลายใจของตัวเอง สำหรับประเทศไทย เรื่องคดีของ ร.อ.ธรรมนัส ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว และตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน แต่ผู้นำประเทศก็ละเลยเฉยเมย และตัวบุคคลก็ไม่เคยรู้สึกอายในส่วนนี้ ซึ่งแตกต่างจากมาตรฐานที่พึงจะมี แต่อย่างไรก็ตามเราจะตรวจสอบ และทำความจริงให้ปรากฏ