สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานความเคลื่อนไหวที่เกาหลีใต้พยายามเพิ่มประชากรวัยทำงาน โดยแก้กฎหมายให้บุตรของชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในเกาหลีใต้ได้เป็นพลเมืองเกาหลีใต้ แต่กลับเจออุปสรรคจากกระแสต่อต้านชาวจีน

ชนวนความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย. โดยกระทรวงยุติธรรมเสนอร่างกฎหมายเพื่อแก้ไขให้บุตรของชาวต่างชาติที่พำนักในเกาหลีเป็นเวลานานใต้ได้สิทธิเป็นพลเรือนชาวเกาหลีใต้ตั้งแต่เกิด

แต่ชาวเกาหลีใต้กว่า 3 แสนคนส่งจดหมายร้องเรียนถึงประธานาธิบดีเพื่อคัดค้านร่างกฎหมายนี้ ส่วนในห้องแชตรูมบนสื่อออนไลน์ก็มีกระแสตีกลับร่างกฎหมายนี้อย่างท่วมท้นโดยมีผู้เข้าชมหลายหมื่นคน

กระทรวงยุติธรรมจึงแก้เกี้ยวโดยจะหารือเพื่อทำประชาพิจารณ์และขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อนส่งร่างกฎหมายไปยังกระทรวงการบัญญัติกฎหมายแห่งชาติ

จาง ยุนมี นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กกล่าวว่าร่างกฎหมายถูกกระแสต่อต้านหนักมาก ตนกล้าพูดได้เลยว่ากระทรวงสูญเสียแรงผลักดันไปแล้วมากมาย

เกาหลีใต้กำลังเผชิญกับอัตราการเกิดลดลงและประชากรวัยทำงานลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ร่างกฎหมายไม่โดนใจชาวเกาหลีใต้ที่มองเชิงลบกับจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด

ข้อมูลเมื่อปีที่แล้วประเมินว่าบุตรของชาวต่างชาติในเกาหลีใต้ประมาณ 3,930 คนมีสิทธิจะได้เป็นพลเมืองตามร่างกฎหมาย แต่ในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ชาวจีน 3,725 คน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา

ชาวเกาหลีใต้มองชาวจีนในทางลบเพราะส่วนหนึ่งเห็นว่าจีนทำให้เศรษฐกิจประเทศพังเนื่องจากจีนจัดการวิกฤตการระบาดโควิด-19 ไม่ดีในช่วงแรกและชาวจีนยังอ้างว่าเป็นต้นตำรับของกิมจิ อาหารเลื่องชื่อ และชุดฮันบกซึ่งเป็นวัฒนธรรมประจำชาติของเกาหลีใต้

ขณะที่คิม ยอง–ฟิล บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ อี–เวิลด์ สำหรับผู้อ่านชาวเกาหลีเชื้อสายจีนกล่าวว่าชุมชนผู้อพยพไม่ได้ต่อต้านร่างกฎหมายสักเท่าไหร่นัก กลุ่มคนต่อต้านชาวจีนคงใช้ประเด็นนี้มาโจมตีชาวเกาหลีเชื้อสายจีนมากกว่า

ประชากรลดลง

ข้อมูลจากศูนย์บริการการย้ายถิ่นระบุว่าการแปลงสัญชาติเกิดขึ้นน้อยมากในเกาหลีใต้ เมื่อ 20 ปีก่อน มีชาวต่างชาติได้สัญชาติเกาหลีใต้ 33 คน แต่เมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 14,000 คน ในจำนวนนี้ เกือบร้อยละ 58 เป็นชาวจีนและร้อยละ 30 เป็นชาวเวียดนาม ส่วนที่เหลือเป็นชาวมองโกเลีย อุซเบกิซสถานและญี่ปุ่น

กระทรวงยุติธรรมชี้แจงว่าร่างกฎหมายมีจุดประสงค์เพื่อจูงใจแรงงานชาวต่างชาติโดยยอมให้บุตรที่เกิดในเกาหลีใต้ได้สัญชาติเกาหลีใต้ตั้งแต่ยังเด็กและจะได้กลมกลืนในสังคม

ส่วนคิม ยอง–ซอน ย้ายมาจากจีนเมื่อปี 2547 เพื่อศึกษาและแปลงสัญชาติในปี 2557 กล่าวว่าการแก้กฎหมายจะเป็นประโยชน์เพราะมีทางเลือกมากขึ้นสำหรับผู้อพยพ แต่ประเด็นเร่งด่วนกว่า คือ น่าจะทำให้ผู้ใหญ่ชาววต่างชาติได้สัญชาติเกาหลีง่ายขึ้น

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ข้อกำหนดการมีถิ่นพำนักถาวรและสถานะเป็นพลเรือนทำได้ยากมากโดยต้องใช้เงินหรือทรัพย์สินมหาศาล

คิมมีเชื้อชาติเกาหลี เช่นเดียวกับชาวจีนส่วนใหญ่ที่อาศัยในเกาหลีใต้เพราะปู่ของคิมอพยพมาจากจีนเมื่อร้อยปีก่อน ชาวจีนที่อาศัยในเกาหลีใต้กว่าร้อยละ 70 หรือประมาณ 865,000 คนเป็นลูกหลานชาวเกาหลี

ชาวเกาหลีใต้เริ่มมีทัศนคติลบต่อประเทศจีนมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง จากผลสำรวจความเห็นของสำนักวิจัยพิวเมื่อปลายปีที่แล้วพบว่าร้อยละ 75 ไม่ชอบชาวจีน เทียบกับการสำรวจเมื่อปี 2558 มีเพียงร้อยละ 37

ด้านอาห์น ชอน–ซู ประธานพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านกล่าวว่าชาวจีนบางคน “อ้างวัฒนธรรม” อย่างไม่สมเหตุสมผลว่ากิมจิและชุดฮันบกเป็นของจีน หากปล่อยไว้ต่อไปอาจจะนำไปสู่ “การบุกรุกทางวัฒนธรรม” ซึ่งชาวจีนอ้างว่าแม้แต่วัฒนธรรมอันล้ำค่าของเกาหลีก็เป็นของจีน