ยูเอ็นวิตกปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในเมียนมาพุ่ง พบหลุมศพ 25 พลเรือน

สำนักงานของสหประชาชาติในเมียนมาออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เพิ่มมากขึ้นในเมียนมา หลังมีรายงานว่ากลุ่มที่คัดค้านการปกครองโดยกองทัพได้สังหารพลเรือนที่ถูกจับกุมตัวไป 25 ราย ขณะที่กองทัพเมียนมาก็ได้เผาหมู่บ้านทิ้งเกือบทั้งหมดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

สำนักงานของสหประชาชาติในเมียนมาออกแถลงการณ์ระบุถึงการกระทำทารุณที่เกิดขึ้นจากทั้งสองฝ่าย และเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการณ์ในขณะนี้รับประกันว่าจะเคารพแบบแผนและพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน

“นั่นหมายรวมถึงการยึดมั่นในพันธกรณีที่จะไม่ทำให้เกิดอันตรายขึ้นกับพลเรือน รวมถึงข้าวของของพลเรือนให้น้อยที่สุด และห้ามการลงโทษต่อชุมชน ครอบครัว รวมถึงปัจเจกบุคคล”แถลงการณ์ระบุ

รายการของสหประชาชาติยังพูดถึงการค้นพบหลุมศพขนาดใหญ่ 2 แห่งในรัฐกะยีน หรือรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาติดกับชายแดนไทย ซึ่งมีศพของผู้เสียชีวิต 25 ศพ โดยมีรายงานว่าผู้เสียชีวิตเหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยองค์กรป้องกันชาติกะเหรี่ยง (KNDO) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมกับเรียกร้องให้มีการนำตัวผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนมารับผิด ซึ่งรวมถึงผู้ลงมือและผู้บังคับบัญชา

กองทัพเมียนมาระบุว่า ร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 25 รายเป็นกลุ่มคนงานที่ทำงานสร้างถนน และถูกควบคุมรวมถึงสังหารโดย KNDO ขณะที่โฆษกของ KNDO อ้างว่าคนเหล่านั้นไม่ใช่พลเรือนแต่เป็นเจ้าหน้าที่กองทัพที่ปลอมตัวเข้ามาสอดแนม โดยบางส่วนถูกพวกเขายิงเสียชีวิตแต่อีกจำนวนหนึ่งถูกยิงจากกองกำลังฝ่ายรัฐบาล

ขณะที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ออกแถลงการณ์ระบุว่าจะตั้งทีมขึ้นมาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่าทางกลุ่มปฏิบัติการดำเนินการตามอนุสัญญากรุงเวียนนาที่ยึดมั่นว่าจะไม่มีการสังหารพลเรือนในขณะที่เกิดความขัดแย้งด้วยอาวุธ และจะมีการนำตัวคนผิดมาลงโทษตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ได้มีการให้รายละเอียดใดๆ เป็นการเฉพาะเจาะจง