“เลขา ครป.” ปราม “ประยุทธ์” อย่าแก้ตัวให้เปลืองแอร์ไทม์ส จี้ พปชร.เลิกรับใช้ระบอบประยุทธ์

วันที่ 17 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการแถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีตัวล่าสุด ถึงสถานการณ์โควิดและการประกาศเปิดประเทศภายใน 120 วันนั้นว่า

การที่นายกฯ ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยตั้งเป้าประเทศไทยต้องเปิดประเทศภายใน 120 วันนั้น ผมเห็นว่าแค่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกอีกแค่เดือนเดียว ประชาชนก็จะอดตายกันหมดแล้ว เพราะการบริหารบ้านเมืองนอกจากการใช้อำนาจและวิสัยทัศน์แล้ว ยังต้องมีความไว้วางใจด้วย แต่พล.อ.ประยุทธ์ สูญเสียความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว จึงไม่สามารถนำนาวาประเทศไทยไปรอดได้ ทางออกวันนี้คือต้องเปลี่ยนกัปตันเรือ ประเทศจะแก้ปัญหาเร็วขึ้นภายใน 60 วัน

พล.อ.ประยุทธ์ แอบใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแถลงแก้ตัวและอ้างว่า 1 เดือนกว่าที่ผ่านมาที่มีอำนาจสามารถสั่งการโดยตรงได้ทำให้มีความคืบหน้าแก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น แต่เขาประกาศพรก.ฉุกเฉินฯ มาปีกว่าแล้ว มีอำนาจบูรณาการทุกหน่วยงานมาช้านานแล้ว ไม่มีข้ออ้างเพิ่มเติมได้เลย และไม่ควรใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจพร่ำเพรื่อไร้สาระสำคัญแบบนี้ ซึ่งสามารถแถลงนโยบายประจำวันต่อสื่อมวลชนได้อยู่แล้ว แต่เขากำลังเบียดบังเวลาประชาชนแก้ตัวกลบประเด็น 17 ความล้มเหลวที่คณะสามัคคีประชาชนฯ ไปเรียกร้องคณะรัฐมนตรีวันก่อน

โรดแมปของพล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลานานเกินไป เพียงไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ บ้านเมืองจะแก้ไขปัญหาเร็วขึ้น เพราะคนที่ชอบขยายเวลาทอดยาวออกไปทุกวันคือนายกรัฐมนตรีเอง ที่ไม่รับฟังเสียงของประชาชน ขนาดเพจของนายกฯ ที่แถลงเรื่องนี้ ยังปิดคอมเม้นต์ไม่ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น เป็นผู้นำไม่ได้ ไม่ต้องไปเช็คเสียงสนับสนุนในวุฒิสภา เพราะคณะท่านตั้งกันมาเอง ลองไปเดินตามถนนเยี่ยงสามัญชน แล้วจะเป็นน้ำตาของประชาชน ไม่ต้องนั่งอยู่บนรถเปิดกระจกทำตัวเป็นฮ่องเต้

สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ทำมา 7 ปี สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ปลัดกระทรวงก็ทำได้ อย่าไปแย่งหน้าที่เขา ทำให้ประเทศถอยหลังล่มจม ยังมีผู้มีความสามารถอีกมากมาย อย่าทำลายสถาบันทหารให้เสียชื่อเสียงมากกว่านี้

นอกจากนี้ ผมขอเรียกร้องไปยังที่ประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐในวันพรุ่งนี้ว่า ระวังจะกลายเป็นพรรคการเมืองสีเทา อย่าปล่อยให้มีพรรคซ้อนพรรคเหมือนรัฐซ้อนรัฐ พรรคการเมืองจะต้องมีอุดมการณ์และประชาธิปไตยภายในพรรคถึงจะยั่งยืนนาน อย่าปล่อยให้ทุนบัญชาพรรค การเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเป็นบทพิสูจน์ว่าพรรคนี้เป็นพรรคที่สืบทอดอำนาจและรับใช้ระบอบประยุทธ์หรือไม่ คนในครอบครัวพลังประชารัฐจะยอมให้มือไม้ของระบอบประยุทธ์มีอำนาจครอบงำพรรคหรือไม่ หาไม่แล้วระวังจะพังไปทั้งพรรค หากไม่รับฟังเสียงของประชาชนที่แท้จริง

อย่าปล่อยให้นายทุนครอบงำพรรค เพราะประวัติศาสตร์สอนไว้ให้เป็นบทเรียนแล้วว่าระบอบเผด็จการทุนนิยมพรรคการเมืองในระบบรัฐสภา มีจุดจบเป็นอย่างไร