จำเป็นต้องถอยตั้งหลัก กรณี”โอทีที”เหตุผลไม่ต่างจาก”แรงงานต่างด้าว”

ปัจจัยอะไรทำให้ความขึงขังของ “กสทช.” ในเรื่อง “โอทีที”มีอันต้อง อ่อนยวบลงกะทันหัน

เป็นปัจจัยในทาง”เศรษฐกิจ”

กรณีของ “โอทีที” ก็เข้ารอยเดียวกันกับกรณีพระราชกำหนดว่าด้วย “แรงงานต่างด้าว”

แม้เรื่องหลังจะมาจาก”ครม.” แต่ก็ต้อง “ถอย”

เพราะที่ออกมาโวยวายเป็น หอการค้าไทย เป็น สภาพอุตสาหกรรมไทย เป็น สมาคมธนาคารไทย

จำเป็นต้องงัด”มาตรา 44″ มา “ชะลอ”

เรื่องของ “โอทีที” มิใช่เพราะ เฟซบุ๊ค ยูทูบ เน็ตฟลิกซ์ ยืนกระ ต่ายขาเดียว

หากแต่เสียว”องค์การการค้าโลก”มากกว่า

ขอให้จับตาการเคลื่อนไหวของ เฟซบุ๊ค ยูทูบ เน็ตฟลิกซ์ แทบมิได้คุยอะไรกับ “กสทช.”

ตรงกันข้าม กลับมุ่งไปยังแหล่งอื่น

เด่นชัดว่า เป้าหมาย 1 ของพวกเขาคือ กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

“ดีอีรู้เรื่องดีกว่ากสทช.” นั่นคือ เหตุผล

ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวล่าสุด คือ การเดินทางของผู้แทนการค้าสหรัฐเข้าพบปลัดกระทรวงพาณิชย์

ทำหน้าที่ให้ เฟซบุ๊ค ยูทูบ เน็ตฟลิกซ์ ตรงๆ

ร้องเรียนว่า การออกโรงของ”กสทช.”เป็นการดำเนินการเกินกว่าที่ได้รับมอบหมายและอาจขัดกับข้อตกลงขององค์การการค้าโลก

นั่นเป็นการเคลื่อนไหวเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม

ยิ่งอยู่ในบรรยากาศที่จะมีการเดินทางไปเยือนสหรัฐตามคำเชิญของ โดนัลด์ ทรัมพ์

เรื่องของ”โอทีที”หวาดเสียวอย่างยิ่ง

ไม่เพียงแต่หวาดเสียวต่อ “เศรษฐกิจดิจิตอล”อันเป็นส่วนหนึ่งที่จะก้าวไปสู่”ไทยแลนด์ 4.0” หากยังกระทบต่อ”ธุรกิจ”อย่างกว้างไกล

เหมือนกับที่”แรงงานต่างด้าว”ทำให้หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมไทย สมาคมธนาคารไทย ต้องออกโรง

“โอทีที” ก็เป็น”สายล่อฟ้า”ชั้นดี