แอสตร้าฯ เผย ยารักษาโควิด จากแอนติบอดี ยังประสิทธิภาพต่ำ-ไม่ถึงเป้า

วันที่ 15 มิถุนายน 2564 สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ผู้ผลิต วัคซีนโควิด-19 สัญชาติสวีเดน-อังกฤษ เปิดเผยผลการทดลอง การใช้ยาเพื่อป้องกันและรักษาโควิด-19 ‘AZD7442’ ซึ่งเป็นส่วนประกอบของสารภูมิต้านทานโมโนโคลนนอล (monoclonal antibody) ของยาแอสตร้าเซนเนก้า ว่ายังมีประสิทธิภาพต่ำในการป้องกันการป่วยแบบแสดงอาการโควิด-19 ในกลุ่มของผู้ที่เพิ่งสัมผัสกับโควิด-19

บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า รายงานว่า ผู้เข้าร่วมการศึกษาทดลองนี้ เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ที่ไม่เคยรับวัคซีนมาก่อน และมีการยืนยันการสัมผัสกับบุคคลที่ติดเชื้อโควิด-19 ภายใน 8 วันที่ผ่านมาก่อนเข้าร่วมการทดลอง ผลพบว่า ‘AZD7442’ สามารถลดความเสี่ยงของการการป่วยโควิด-19 แบบแสดงอาการได้เพียง ร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับยาหลอก ซึ่งถือว่าไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ

นาย เมเน แพนกาลอส (Mene Pangalos) รองประธานบริหารแอสตร้าเซนเนก้า ระบุว่า “ถึงแม้ว่าการทดลองครั้งนี้จะยังไม่บรรลุเป้าหมายในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการอย่างที่คาดหวังไว้ แต่ถือว่ายังน่าพอใจ เนื่องจากผลการป้องกันของยา AZD7442 ในกลุ่มทดลอง มีผู้เข้าร่วมที่ตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสด้วยวิธีพีซีอาร์ แล้วมีผลเป็นลบ”

Reuters

โดยสารภูมิต้านทานจากโคลนของเซลล์บรรพบุรุษตัวเดียว หรือโมโนโคลนนอล เป็นโปรตีนสังเคราะห์ที่ผลิตเลียนแบบสารภูมิต้านทานที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างขึ้นตามธรรมชาติเพื่อต่อสู้กับไวรัส

อย่างไรก็ตาม นอกจาก แอสตร้าเซนเนก้า ก็ยังมีบริษัทยา รีเจนเนอรอน ฟาร์มาชูติคอลส์ และ เอลี ลิลลี ที่พัฒนาจากโมโนโคนอลแอนติบอดี โดยได้รับการอนุมัติการใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว

Reuters

ทั้งนี้ สำนักงานยาแห่งยุโรป หรือ อีเอมเอ ได้ให้การอนุมัติของรีเจนเนอรอนแล้ว ขณะที่ เอลี ลิลลี , เซลล์เทรียน และยาที่ร่วมพัฒนาระหว่าง แกลโซสมิธไคลน์ และ เวียร์ ไบโอเทคโนโลยี กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาการอนุมัติ

ทั้งนี้ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการพัฒนาตัวยา AZD7442 โดยเมื่อเดือน มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา แอสตร้าเซนเนก้าได้ประกาศข้อตกลงในการผลิตยาชนิด AZD7442 ให้แก่สหรัฐฯ กว่า 5 แสนโดส บริษัทกล่าวเสริมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับขั้นตอนถัดไปของข้อตกลง