ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 14 มิ.ย. รอยเตอร์ รายงานว่า กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา เริ่มขับไล่คนออกจาก “หมู่บ้านลอยน้ำ” อันโด่งดังของประเทศ ริมฝั่งแม่น้ำโตนเลสาบ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของผู้อยู่อาศัยมาเนิ่นนานที่เผยว่าพวกเขาไม่มีที่ไปอีกแล้ว
เรือนแพไม้ลอยน้ำแห่งกรุงพนมเปญเป็นทั้งการดำรงชีวิตและวิถีชีวิตของครอบครัวชาติพันธุ์เวียดนามส่วนใหญ่มาหลายชั่วอายุคน เป็นที่ตั้งของแหล่งเพาะเลี้ยงปลาและเชื่อมด้วยสะพานทำมือ สลับกับเสาจมแม่น้ำ และเรือลำเล็กหลายลำ
“บรรพบุรุษอยู่ที่นี่มาตลอด” คิธ ดง วัย 54 ปี กล่าวขณะที่เขาและญาติๆ รื้อถอนบ้าน ซึ่งประกอบด้วยแท่นไม้ที่มีหลังคาสังกะสีลาดเอียงนอกชายฝั่งของเขตเพรกพนอฟ และว่า คำสั่งไล่ที่ไม่ให้เวลาครอบครัวเพียงพอย้ายถิ่น “หากขยายออกไปอีกสองสามเดือน เราจะมีเวลาสร้างบ้าน”
ขณะที่เทศบาลนครพนมเปญกล่าวว่า ชุมชนต่างๆ เป็นสลัมลอยน้ำอุจาดตาและอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากถุงขยะและสิ่งปฏิกูลลอยเคียงข้างเรือนแพ
สี วุธะ หัวหน้าสำนักจัดการที่ดินเขตเพรกพนอฟ ซึ่งดูแลการรื้อถอนเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย. กล่าวว่า “เราไล่ที่บ้าน 316 หลัง ที่ส่งผลกระทบต่อความงดงามของเมืองและสภาพแวดล้อม หากคุณนั่งบนเรือสักลำ มันมีกลิ่นแย่มาก” และว่า การไล่ที่เป็นการตั้งใจทำความสะอาดเมืองหลวง ก่อนมหกรรมเอเชียนเกมส์ที่กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในปี 2566 เนื่องจากสนามกีฬาก่อสร้างใหม่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่กิโลเมตร
“มีหลายไวรัสหลายร้อยตัวที่นี่ นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องมาเห็นประเทศเราเช่นนี้รึ” สี วุธะ กล่าวแต่ ไม่ได้ระบุว่าความจำเป็นต้องรื้อถอนตอนนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้อยู่อาศัยไม่น้อยกล่าวว่า การรื้อถอนเกิดขึ้นเร็วเกินไป และตั้งคำถามถึงความจำเป็นต้องย้ายออกไป ทั้งที่เวลายังเหลือมากกว่า 1 ปี ก่อนเอเชียนเกมส์
ดัน วัน โชว์ วัย 57 ปี ย้ายจากเวียดนาม มาอยู่กัมพูชามากกว่า 20 ปี กล่าวว่า ครอบครัวเลี้ยงปลาในกระชังนอกที่อยู่อาศัย แต่ปลาในปีนี้ยังเล็กเกินกว่าจะขายเพื่อหาเงินซื้อบ้านได้ “ผมไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ผมไม่มีที่ดินอีกแล้ว”