‘ก้าวไกล’ เผย ‘ก.คลัง’ อ้างตัดงบสวัสดิการ เหตุคาดการณ์ ‘คนจนลดลง’ ปีละ 5 แสนคน ตรวจงบ 65 พบพิรุธ คนที่ตายแล้ว 1 ใน 5 ยังได้รับเงินอยู่
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน น.ส.วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนเเรงงาน พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในการตัดลดงบประมาณนั้น ได้ตรวจพบข้อสงสัยต่อการเบิกจ่ายที่ผิดปกติของกองทุนสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีตัวแทนจากกระทรวงการคลังเข้าชี้แจงกับ กมธ. ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตัดลดงบประมาณกองทุนสวัสดิการประชารัฐจากเดิมวงเงิน 50,000 ล้านบาท เหลือเพียงวงเงิน 30,000 ล้านบาท โดยได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาว่า เงินในส่วนงบประมาณปี 2564 คงเหลือ รัฐบาลจึงได้ตัดงบประมาณของกองทุนสวัสดิการประชารัฐออก แต่เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลังนำข้อมูลรายงานประจำปีของงบประมาณปี 2564-2565 เข้าชี้แจงต่อ กมธ. พบข้อเท็จจริงว่าเงินในส่วนงบประมาณปี 2564 ใช้ได้ถึงแค่วันที่ 30 เมษายน 2564 จำนวนประมาณ 28,000 ล้านบาท ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นจะกล่าวว่าเงินเหลือไม่ได้ เพราะยังเหลืออีก 5 เดือนที่ยังไม่ได้จัดสรรตามปีงบประมาณที่สิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน โดยงบประมาณที่เหลือจะจ่ายในครึ่งปีหลัง

น.ส.วรรณวิภากล่าวว่า จึงได้ซักถามข้อสงสัยต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังว่า ตกลงแล้วข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ซึ่งพบว่าในไตรมาสที่ 3 มีแผนใช้งบประมาณเหลือเพียง 495 ล้านบาท และในแผนไตรมาสที่ 4 ไม่มีแผนการใช้งบประมาณที่เกี่ยวกับกองทุนสวัสดิการประชารัฐเลย โดยทางผู้ชี้แจงยังได้ตอบว่าจะทำเรื่องของบประมาณในส่วนกองทุนสวัสดิการประชารัฐคืนกลับมา เนื่องจากตัวเลขงบประมาณที่ตั้งไว้จำนวน 30,000 ล้านบาทไม่เพียงพอต่อเป้าหมายของจำนวนประชาชนที่ได้รับสิทธิ ทางกระทรวงการคลังยังตั้งเป้าหมายอนาคตว่าในปี 2566-2567 ได้ตั้งงบประมาณไว้ 77,000 ล้านบาท คาดการณ์ไว้ว่าจะมีจำนวนคนจนลดลงปีละ 500,000 คน

“ข้อสังเกตต่อกรณีนี้คือ ทางกระทรวงการคลังนำหลักเกณฑ์อะไรมาใช้ชี้วัดว่าแต่ละปีจะมีจำนวนคนจนลดลงปีละ 500,000 คน หรือหมายความว่า อีกไม่เกิน 8 ปี เราจะไม่มีคนจนในประเทศไทยเลยใช่หรือไม่ และในเล่มเอกสารรายงานงบประมาณฯ ปี 2565 ได้ทำงบขาดดุลไว้ ขาดประมาณ 40,000 ล้านบาท ที่จะนำมาชดเชยในส่วนงบของกองทุนสวัสดิการประชารัฐ” น.ส.วรรณวิภากล่าว

น.ส.วรรณวิภากล่าวว่า กรณีที่กองทุนสวัสดิการประชารัฐมีปัญหา ได้นำวาระเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่ได้รับรองร่าง พ.ร.บ.งบ 2565 เนื่องจากมีเอกสารเพียง 5 หน้ากระดาษ และยังมีกรณีที่ สตง.ลองสุ่มตรวจผู้เสียชีวิตจำนวน 100 กว่าคน ปรากฏพบว่ายังมีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยังใช้สิทธิบัตรประชารัฐประมาณ 22 คน หรือประมาณ 1 ใน 5 จึงได้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีความไม่โปร่งใสในการใช้เงินในส่วนงบประมาณที่นำมาใช้บริหารจัดกองทุนประชารัฐ

“การทำงานของ กมธ. พรรค ก.ก.มุ่งเน้นไปที่การรีดไขมันในส่วนงบประมาณที่ไม่จำเป็น มารวมไว้กองกลางก่อนจะกระจายคืนในส่วนงบประมาณที่จำเป็นต่อประชาชน ซึ่งจะเป็นก้าวแรกของการสร้างรัฐสวัสดิการ และเป็นส่วนสำคัญที่จะพัฒนาเเละยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้ตรงจุดและเป็นฐานในการพัฒนาประเทศให้มั่นคงในอนาคต” น.ส.วรรณวิภากล่าว