เพื่อชาติ ไล่รัฐบาลลาออก ล้มเหลวฉีดวัคซีน เย้ยแก๊งนกหวีดยังโหยหา ‘พี่โทนี่’ อยากให้กลับมาฟื้นเศรษฐกิจภายใน 6 เดือน

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า วันนี้ตนเช็กข่าวมีข่าวหนึ่งที่สะดุดความรู้สึก คือข่าวพิษโควิด ธุรกิจนักแสดงไปต่อไม่ได้ ทำให้ตนไปค้นจำนวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดของกระทรวงสาธารณสุข แล้วลองคำนวณตัวเลขเล่นๆ เพื่อหาคำตอบว่าประเทศไทยจะกลับมาเดินหน้าธุรกิจ ทำให้เศรษฐกิจไปต่อได้เมื่อใด ขนาดนักแสดงซึ่งจัดว่ารายได้สูงยังไปต่อไม่ได้ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศก็น่าจะล้มไปเกือบหมดแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อนำตัวเลขผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.มาคำนวณจากรายงานการฉีดวัคซีนของประเทศไทย สรุปได้ดังนี้ เริ่มฉีดวัคซีนวันแรก 28 ก.พ.ถึงวันที่ 8 มิ.ย. ผ่านมาประมาณ 100 วัน ทั้งประเทศเพิ่งฉีดวัคซีนเข็มแรกไปได้แค่ 3 ล้านกว่าคน ถ้าหาค่าเฉลี่ยตามนี้ ประเทศไทยจะต้องฉีดวัคซีนกันไปอีกอย่างน้อย 3 ปีครึ่ง ถึงจะครบ 50 ล้านคน ที่สำคัญถ้าจะฉีดให้มีภูมิคุ้มกันหมู่ต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 60% ของจำนวนประชากร ซึ่งประมาณ 42 ล้านคน ถ้ามีวัคซีนที่สามารถทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ออกมาฉีดให้ประชาชนได้ในอัตราค่าเฉลี่ยตามข้อมูลนี้ คงต้องฉีดกันไปอีก 10 กว่าปี ถึงจะครบที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่

น.ส.เกศปรียา กล่าวอีกว่า แค่คิดในใจตัวเลขประชาชนที่ได้รับวัคซีน ก็รับรู้ถึงปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ว่าจะอดอยากลำบากไปอีกนาน 3- 10 ปีกับการที่มีรัฐบาลที่ล้มเหลว ไม่สามารถบริหารจัดการวัคซีน เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่อย่างรวดเร็ว ทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ถ้ารัฐบาลไร้ความสามารถขนาดนี้ อย่าหวงอำนาจต่อไปเลย ลาออกพร้อมเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อกำหนดให้คนไร้ความสามารถแต่อยากมีอำนาจ เป็นผู้บริหารประเทศตลอดกาล ไม่ต้องออกมาทวงบุญคุณว่ารักชาติ นั่งทับอำนาจทำประเทศชาติพังคามือ เวลาแห่งการหลอกลวงประชาชนหมดลงแล้ว บริหารประเทศไม่ง่ายเหมือนใครโวไว้เมื่อ 7 -8 ปีก่อน ตอนนี้แม้แต่คนที่เคยเป่านกหวีดยังโหยหาพี่โทนี่ อยากให้กลับมาฟื้นเศรษฐกิจภายใน 6 เดือน